Page 22 - group5sec2000153
P. 22
16
ศักยภาพการผลิตตามห่วงโซ่มูลค่า(Value Chain) สู่การตลาดในแต่ละระดับ
7. เพื่อให้เครือข่ายบริหารการเชื่อมโยงศูนย์กระจายสินค้า และหรือแหล่งจ าหน่ายสินค้าภายใต้
โครงการหนึ่งต าบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ในปัจจุบันและที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ในภาวะที่เศรษฐกิจของประเทศต่างก าลังแข่งขันกันอย่างมากทั้งด้านการค้า การ
ลงทุน และการสื่อสาร ท่ามกลางบรรยากาศของกระแสโลกาภิวัตน์และความก้าวหน้าของวิทยาการ
แขนงต่างๆ การพัฒนาเพื่อการส่งออกผลิตภัณฑ์ OTOP นับเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ของประเทศอีกทางหนึ่งที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย
ในตลาดโลก ด้วยการอาศัยการพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศควบคู่กันด้วย ซึ่งการที่
จะพัฒนาให้ผลิตภัณฑ์ OTOP มีลู่ทางการส่งออกสดใสจ าเป็นที่ภาครัฐต้องให้การสนับสนุนและแก้ไข
ปัญหาอุปสรรคที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับสร้างจุดแข็งและเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ OTOP
เพื่อดึงดูดความสนใจจากตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งของการเสริม
รายได้ ส่งเสริมการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น และสร้างความแข็งแกร่งแก่ชุมชนระดับฐานรากแล้ว ใน
ระดับมหภาคยังเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคง
และยั่งยืนมากขึ้น ดังนั้น การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ OTOP เพื่อการส่งออกจึงเป็นแนวทางส าคัญที่จะ
ช่วยสนับสนุนภาคการส่งออกของไทยให้ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องควบคู่กับการพัฒนาขีด
ความสามารถการแข่งขันในเชิงเศรษฐกิจทุกๆ ด้าน เพื่อก้าวให้ทันกับความเคลื่อนไหวในตลาดโลก
อันจะน าไปสู่การสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงแก่ระบบเศรษฐกิจของประเทศต่อไปในภายหน้า
(ส านักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพังงา,2560)
หมู่บ้ำนนวัตวิถี
ที่มา plan.cdd.go.th/คู่มือแนวทางการด าเนินง/otop-นวัตวิถี
นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมขน กล่าวถึงความเป็นมาแนวคิดวิธีการ
ด าเนินการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีว่า โอทอปเปรียบเป็นเหรียญสองด้าน ซึ่ง 16 ปีที่ผ่านมาใน
ระบบเก่า เราท าอยู่ด้านเดียวคือ ด้านหัว คือ สินค้าโอทอปที่มีคุณภาพ ผ่านมาตรฐานของรัฐ โดยผ่าน
การคัดสรรสุดยอดโอทอป ซึ่งทั่วประเทศมีจ านวน 15,000 ราย แต่เรามีผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียน
อยู่ 8 หมื่นกว่าราย ท าให้มีสินค้าโอทอปที่ตกเกณฑ์ถึง 7 หมื่นราย ต่อจากนี้เราจะเริ่มท าเหรียญด้านที่
สอง คือชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ซึ่งเป็นแนวคิดพัฒนา OTOP รูปแบบใหม่ โดยให้ขายสินค้า
อยู่ภายในชุนชน เป็นการสร้างรายได้เพิ่มให้ชุมชน น าเสน่ห์ ภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรม และ