Page 5 - งานนำเสนอ PowerPoint
P. 5
ประวัติหนังตะลุง
หนังใหญ่ แต่เดิมเรียกว่ำ "หนัง" นิยมเล่นกันแพร่หลำยในแถบภำคกลำง ส่วนหนังตะลุง แต่เดิมคนใน
ท้องถิ่นภำคใต้ก็เรียกสั้น ๆ ว่ำ "หนัง" เช่นกัน ดังค ำกล่ำวที่ได้ยินกันบ่อยว่ำ "ไปแลหนังโนรำ" จึงสันนิษฐำนว่ำ ค ำ
ว่ำ "หนังตะลุง" คงจะเริ่มใช้เมื่อมีกำรน ำหนังจำกภำคใต้ไปแสดงให้เป็นที่รู้จักในภำคกลำง จึงได้เกิดค ำ "หนัง
ตะลุง" และ "หนังใหญ่" ขึ้นมำเพื่อไม่ให้ซ้ ำซ้อนกัน หนังจำกภำคใต้เข้ำไปเล่นในกรุงเทพฯ ครั้งแรกสมัย
พระบำทสมเด็จพระนั่งเกล้ำเจ้ำอยู่หัว โดยพระยำพัทลุง (เผือก) น ำไปเล่นที่แถวนำงเลิ้ง หนังที่เข้ำไปครั้งนั้นเป็น
นำยหนังจำกจังหวัดพัทลุง คนกรุงเทพฯจึงเรียก "หนังพัทลุง" ต่อมำเสียงเพี้ยนเป็น "หนังตะลุง"
เชื่อกันว่ำ หนังตะลุงเลียนแบบมำจำกหนังใหญ่ โดยย่อรูปหนังให้เล็กลง ในยุคแรก ๆ คงแสดงเรื่อง
รำมเกียรติ์เหมือนกัน แต่เปลี่ยนบทพำกย์มำเป็นภำษำท้องถิ่น เปลี่ยนเครื่องดนตรีจำก พิณพำทย์ ตะโพน มำเป็น
ทับ กลอง ฉิ่ง โหม่ง ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่มีอยู่เดิมในภำคใต้ หลักฐำนที่บอกว่ำหนังตะลุงคงเลียนแบบมำจำกหนัง
ใหญ่ คือ แม้หนังตะลุงจะไม่ได้ใช้ พิณพำทย์ ตะโพน แต่ในโองกำรร่ำยมนต์พระอิศวร (บทบูชำพระอิศวร) ก็ยังมี
บทที่ว่ำ
อดุลโหชันชโนทั้งผอง 3 พิณพำทย์ ตะโพน กลอง
ข้ำจะเล่นให้ท่ำนทั้งหลำยดู
ต่อมำ หนังภำคใต้หรือหนังตะลุง รับอิทธิพลของหนังชวำเข้ำมำผสมผสำน จึงท ำให้เกิดวิวัฒนำกำรใน "รูป
หนัง" ขึ้นมำ รูปหนังใหญ่จะเป็นแผ่นเดียวกันทั้งตัว เคลื่อนไหวอวัยวะไม่ได้ แต่รูปหนังชวำเคลื่อนไหวมือและปำก
ได้ ส่วนใหญ่รูปหนังจะเคลื่อนไหวมือได้เพียงข้ำงเดียว ยกเว้นรูปกำก หรือตัวตลก และรูปนำงบำงตัว ที่สำมำรถ
ขยับมือได้ทั้งสองข้ำง รูปหนังชวำมีใบหน้ำที่ผิดไปจำกคนจริง และหนังตะลุงก็รับแนวคิดนี้มำปรับใช้กับรูปตัวตลก
เช่น แกะรูปหนูนุ้ยให้หน้ำคล้ำยวัว เท่งหน้ำคล้ำยนกกระฮัง เป็นต้น นี่ก็อำจจะเป็นอีกควำมเชื่อหนึ่งที่ท ำให้ถูก
เรียกว่ำหนังตะลุง เนื่องจำก ค ำว่ำ ตลุง หรือ dalang ในภำษำชวำและมำเลย์ หมำยถึงคนที่เชิดรูปหุ่นของวำหยัง กุ
ลิท และนอกจำกนั้นตัวละครที่เป็นตัวตลก เช่นยอดทอง พูน หนูนุ้ย ก็มีควำมคล้ำยคลึงกับ วำหยัง กุลิท
หนังตะลุงเกิดขึ้นเมื่อใดนั้น ยังไม่มีหลักฐำนยืนยันแน่ชัด นักวิชำกำรสันนิษฐำนว่ำคงเป็นช่วงต้นกรุง
รัตนโกสินทร์ เพรำะกลอนหนังตะลุงนิยมแต่งเป็นกลอนแปด ซึ่งในสมัยอยุธยำกลอนแปดไม่ได้เป็นที่นิยม
แพร่หลำย ยิ่งในภำคใต้ วรรณกรรมพื้นบ้ำนรุ่นเก่ำแก่ล้วนแต่งเป็นกำพย์ทั้งสิ้น กลอนแปดเพิ่งมำเป็นที่นิยมกัน
อย่ำงกว้ำงขวำงก็เมื่อหลังสุนทรภู่แต่งเรื่องพระอภัยมณีออกเผยแพร่แล้วนี่เอง
หนังตะลุงเกิดขึ้นในภำคใต้ครั้งแรกที่จังหวัดใด ก็ยังไม่มีหลักฐำนยืนยันแน่ชัด
5