Page 887 - เมืองลับแล(ง)
P. 887
หมายเหต : ปรากฏคำว่า เมืองลับแล ขึ้นเมืองพิชัย ในเอกสารทตตอบสมัยสมเดจพระนารายณ์มหาราช เมื่อ
ู
ุ
็
ครั้งเจริญสัมพันธไมตรีกับพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ทำให้ทราบว่าเมืองลับแลขึ้นอยู่ในความปกครองของเมืองพิไชย
และเป็นมาจวบจนถึงสมัยรัชกาลท ๕
ี่
้
ใบลานวัดทองลับแล
คำอ่านปริวรรต : จุฬสกกได้ ๑๑๙๙ ตัว ปลีเมิงเร้าเดินยีแรม ๖ วัน ๖ ยามเช้าแล
้
ข้าขยรคำชูสาวธุเจาหลวงเจ้าคำภิรปางเมิอยู่เมิงย้างวันนันและ หมิรจนทอสอรขยรตํวบ่งาม
สักค้ายคอยพิจจารณาด ู
คำอ่าน : จุลศักได้ ๑๑๙๙ ตํว ปีเมิงเล้าเดือนยี่แรม ๖ วัน ๖ (วันศุกร์) ยามเช้าและ
ั
้
ั
้
้
ั
ข้าเขียนค้ำชูสวธุเจาหลวงเจาคำภีระปางอยู่เมืองย้างวันนั้นและ หมื่นจันทอักษรเขียนตวบ่งามสกคาย
ค่อยพิจารณาดู
ที่มา : พบที่วัดท้องลับแล ตำบลฝายหลวง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์
้
้
ู
ความสำคัญ : ใบลานที่จารด้วยภาษาล้านนา พบคำว่า “ข้าเขียนค้ำชสัวธุเจาหลวงเจาคำภีระปางอยู่เมืองย้าง
วันนั้นและ”ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองเมืองนั้นคือ เมืองลับแลงและเมืองย้าง (ทุ่งยั้ง) ใน
การค้ำชูเจ้าหลวงเจ้าคำภีระ (สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเจ้าเมืองที่ไปบวชในวัดพระมหาธาตุเมืองย้าง)
ผู้ค้นพบ : คณะกรรมการศึกษาประวัติศาสตร์เมืองลับแล (เมืองลับแลง)
ใบลานวัดทองลับแล
้
คำอ่านปริวรรต : นามมภิกขุขยรแลพรหมสอยยูปลาดับแกวกวางเมิองหลวง
คำอ่าน : นามภิกขุเขียนและพรหมสร้อยอยู่ป่าดับแก้วกว้างเมืองหลวง
ที่มา : พบที่วัดท้องลับแล ตำบลฝายหลวง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์
ภาคผนวก ~ หน้า ๑๗ ~