Page 93 - เอกสารประกอบการสอน pdf
P. 93
บทที่ 5 การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนบนฐานมรดกวัฒนธรรม 82
มีโครงการหนึ่งต าบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (One Tambon One Product - OTOP) หลังปี พ.ศ. 2545 การท่องเที่ยว
ลงไปในชนบทหลากหลายรูปแบบ ในปี 2547 มีการให้มาตรฐานโฮมสเตย์ ปัจจุบันการท่องเที่ยวโดยชุมชน
เริ่มเป็นที่ยอมรับว่าเป็นการท่องเที่ยวรูปแบบหนึ่งซึ่งชุมชนเข้ามาบริหารจัดการการท่องเที่ยวด้วยตนเอง
รูปแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชน มี 3 รูปแบบ คือ
1. แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เป็นโปรแกรมการท่องเที่ยวปกติของชุมชน
2. ศึกษาดูงาน เป็นการจัดกระบวนการเรียนรู้ ซึ่งมีทั้งการบรรยาย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
เพอให้ผู้มาศึกษาดูงานได้เข้าใจ และน าไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบท หรือวัตถุประสงค์ของการศึกษา
ื่
ดูงาน
3. จิตอาสา เป็นกิจกรรมเพมเติมส าหรับอาสาสมัครที่ต้องการท ากิจกรรมบ าเพญประโยชน์
ิ่
็
ที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน
สิ่งที่นักท่องเที่ยวจะได้รับจากการท่องเที่ยวโดยชุมชน
ค้นหา ส ารวจความงามที่เรียบง่ายของหมู่บ้านในชนบทและมีส่วนร่วมในวิถีชีวิตของคนในชุมชน
เรียนรู้ วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชุมชนที่มีความหลากหลายแตกต่างกันในแต่ละท้องถิ่น
แลกเปลี่ยน ด้วยความอ่อนน้อม เคารพในวัฒนธรรมที่แตกต่าง
พักอาศัย ในบ้านกับครอบครัวคนท้องถิ่น รับประทานอาหารพื้นบ้าน และแลกเปลี่ยนเรื่องราว
ที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ความมีชีวิตชีวา และเสียงหัวเราะของสมาชิกในครอบครัว
เดินป่า กับคนท้องถิ่น ในเส้นทางที่สวยงาม และมีความหมายสอดแทรกเรื่องราวภูมิปัญญา
ท้องถิ่น ต านานพื้นบ้านจากอดีตจวบจนปัจจุบัน
เก็บเกี่ยว ผลไม้สด สมุนไพร และผักจากสวนของครอบครัวคุณก่อนที่จะเรียนรู้สูตรอาหาร
และมีส่วนร่วมในการท าอาหารกับคนท้องถิ่น
ด าน้ า ความงามใต้ท้องทะเลสีคราม หรือใช้ชีวิตล่องเรือไปหาปลากับชาวประมงพื้นบ้าน
เลือก เรียนรู้และกิจกรรมได้ตามความสนใจ
5.3.4 การด าเนินงานและประโยชน์ของการท่องเที่ยวโดยชุมชน
การท่องเที่ยวโดยชุมชนเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน การจัดการ
ื่
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพอให้เกิดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน จุดเด่นของการท่องเที่ยวโดยชุมชน
หรือ CBT คือ แต่ละชุมชนจะมีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความเป็นท้องถิ่นดั้งเดิม
ได้เห็นการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างนักท่องเที่ยวกับเจ้าของท้องถิ่น
การท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมเยือนชุมชน มีการน าเสนอจุดขายที่คล้ายคลึงกัน กล่าวคือ มีการน าเสนอ
ที่พักและอาหารท้องถิ่น มีกิจกรรมน าเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน มีการท ากิจกรรมร่วมกับคนในชุมชน
ื่
แต่สิ่งที่การท่องเที่ยวโดยชุมชนแตกต่างจากการท่องเที่ยวในชุมชนรูปแบบอน คือระดับการมีส่วนร่วมของ
คนในชุมชน ความรู้สึกเป็นเจ้าของ และรูปธรรมที่จับต้องได้ว่าการท่องเที่ยวส่งผลประโยชน์ต่อชุมชน
ั
โดยภาพรวมอย่างไร ทั้งเรื่องการพฒนาชุมชน และดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นักท่องเที่ยว
ั
จะได้สัมผัสถึงการต้อนรับที่อบอน มีอธยาศัยไมตรี มีโอกาสพบปะกับคนที่หลากหลายในชุมชน โดยที่
ุ่
ทุกคนรู้สึกว่าตนเองเป็นเจ้าบ้านพร้อมต้อนรับแขกผู้มาเยือน และได้สัมผัสความเป็นชุมชนในการด าเนิน
วิถีชีวิตที่เป็นปกติ รวมถึงได้ตระหนักถึงความรู้สึกเป็นเจ้าของการท่องเที่ยวโดยชุมชน เมื่อผู้มาเยือน
ั
สามารถรับรู้ถึงความตั้งใจจริงนั้นได้จาก “กองทุนชุมชน” ที่ตั้งขึ้นเพอสนับสนุนการพฒนาชุมชน แม้ว่า
ื่
สมาชิกในชุมชนอาจไม่ได้รับรายได้โดยตรงจากการท่องเที่ยว แต่ผลการด าเนินกิจกรรมการท่องเที่ยว