Page 18 - ระลึกถึง นพ จอห์น เจ กุยเยอร์ และ อ เบ็ทซี่ กุยเยอร์
P. 18

ชีวิตการรับใช้ของท่านทั้งสอง


                นายแพทย์จอห์น กุยเยอร์ และภรรยา เดินทางถึงประเทศไทยเมื่อวันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน ค.ศ.1952 โดยเรือ
          บรรทุกสินค้าข้ามมหาสมุทรแปซิฟิคจอดทอดสมอที่เกาะสีชัง และนั่งเรือเล็กเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อมุ่งสู่กรุงเทพฯ

          โดยจอดที่คลองเตย (เนื่องจากแม่น้ำในขณะนั้นไม่ได้ถูกขุดลอกให้ลึกพอที่เรือเดินมหาสมุทรขนาดใหญ่จะแล่นขึ้นมาได้)
          และได้พักอยู่กับมิชชันนารีที่บ้านย่านถนนสีลม

                วันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ.1952 ออกเดินทางไปยังจังหวัดเชียงใหม่โดยรถไฟ ใช้เวลาประมาณ 20 ชั่วโมง เมื่อเดินทาง
          ไปถึง ได้รับการต้อนรับจาก นายแพทย์บุญชม อารีวงศ์ และ คุณเซดี้ เลมมอน พร้อมทั้งพยาบาลและนักศึกษาพยาบาล

          ที่สถานีรถไฟ
                นายแพทย์จอห์น กุยเยอร์ และภรรยา ได้ใช้เวลาเรียนภาษาไทยเป็นเวลาเกือบ 1 ปี จบการเรียนภาษาไทยปีแรก

          ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1953 และนายแพทย์จอห์น กุยเยอร์ ได้เริ่มทำพันธกิจรับใช้ที่โรงพยาบาลแมคคอร์มิค ตั้งแต่
          เดือน พฤศจิกายน ปี ค.ศ.1953 จวบจนถึง เดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ.1990 รวมเป็นเวลา 37 ปี

                ท่านได้ทำงานในฐานะแพทย์ประจำโรงพยาบาลแมคคอร์มิค ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1953 -1959  จากนั้นท่านได้รับตำแหน่ง
          เป็นหัวหน้าฝ่ายบริการทางการแพทย์ ในปี ค.ศ. 1959 - 1986 และรับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลตั้งแต่เดือน

          มกราคม ปี ค.ศ. 1986 จนเกษียณอายุ  ขณะที่ท่านเป็นแพทย์ประจำที่โรงพยาบาลแมคคอร์มิค ท่านได้สละเวลาที่จะ
          เป็นคณะกรรมการบอร์ดของโรงพยาบาลแพร่คริสตเตียน สถาบันแมคเคนเพื่อการพื้นฟูสภาพ มหาวิทยาลัยพายัพ และ

          โรงพยาบาลแวนแซนวู๊ด และยังเป็นที่ปรึกษาของโรงเรียนนานาชาติเชียงใหม่ ท่านเป็นสมาชิกของคริสตจักรที่หนึ่ง
          เชียงใหม่ และช่วยในคณะธรรมกิจของคริสตจักรเป็นเวลา 2 สมัย เป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งสโมสรโรตารี่ เชียงใหม่ และ

          ในปี ค.ศ.1959 เป็นประธานอยู่หนึ่งสมัย
                ส่วนอาจารย์เบ็ทซี่ สอนวิชากายวิภาคศาสตร์ – สรีรวิทยา ที่คณะพยาบาลศาสตร์แมคคอร์มิคและสถาบันอื่นๆ

          รวมถึงโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย ซึ่งท่านได้สอนวิชาเคมี ภาษาอังกฤษ และชีววิทยา เป็นเวลาถึง 15 ปี นอก
          จากนั้นยังเป็นหัวหน้าวงดุริยางค์ของโรงเรียน ท่านได้สอนที่มหาวิทยาลัยพายัพ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1974  เป็นประธานบอร์ดที่

          The Chiangmai Children Center (ปัจจุบันคือโรงเรียนนานาชาติเชียงใหม่) และเป็นประธานของกลุ่มเนตรนารีอยู่หลายปี
                ช่วงที่ท่านกลับไปเยี่ยมบ้านของท่านในแต่ละครั้ง นายแพทย์จอห์น กุยเยอร์ ได้ใช้ช่วงเวลานั้นเรียน และศึกษา

          ความรู้ด้านการแพทย์อยู่เสมอ เช่น ในช่วงที่ท่านเดินทางไปเยี่ยมบ้านครั้งแรกในปี ค.ศ.1957 – 1958 นั้น ท่านทั้ง 2 ได้ใช้
          เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่ชิคาโก  อาจารย์เบ็ทซี่ทำงานวิจัยและเขียนวิทยานิพนธ์ปริญญาโท สาขา Medical Physiology ที่คณะ

          แพทย์ศาสตร์ University of Illinois นายแพทย์จอห์น กุยเยอร์ ก็ได้ใช้เวลาหลายเดือน ในศึกษาโรควัณโรค ที่
          โรงพยาบาลโรคปอดของเทศบาลเมือง Chicago  ท่านได้ศึกษาการอ่านผลจากเครื่อง ECG  ได้สังเกตการณ์การทำ

          barium กระเพาะและลำไส้  ได้ดูการชัณสูตรศพ 2-3 ราย เป็นต้น
                คริสตจักร Highland Park Presbyterian รัฐ Illinois ได้มอบเครื่อง ECG ยี่ห้อ Sandborn ให้แก่ท่าน ซึ่งท่านได้

          นำเครื่อง ECG เข้ามาใช้ที่โรงพยาบาลแมคคอร์มิค และได้รับความนิยมมาก มีคนจำนวนมากมาขอตรวจหัวใจที่โรงพยาบาล
          แมคคอร์มิค  นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือแพทย์สมัยใหม่อีกหลายชนิด ที่ท่านได้ขอเพื่อนำเข้ามาใช้ในโรงพยาบาลแมคคอร์มิค

                เป็นเวลากว่า 37 ปี ที่นายแพทย์จอห์น กุยเยอร์ และอาจารย์เบ็ทซี่ กุยเยอร์ ได้เสียสละเวลาในชีวิตส่วนตัวเพื่อมา
          ทำพันธกิจการรักษาที่จังหวัดเชียงใหม่  ท่านได้รับใช้ด้วยจิตวิญญาณบริสุทธิ์และความรักแห่งองค์พระเยซูคริสตเจ้า

          สร้างคุณูปการให้แก่โรงพยาบาลแมคคอร์มิคอย่างเหลือคณานับ และเป็นแบบอย่างของผู้รับใช้ที่มีชีวิตนิรันดร์ในพระคริสต์
                ไม่มีใครรู้ว่าลมหายใจสุดท้ายของเราจะมาถึงเมื่อไหร่ หรืออย่างไรแต่เราสามารถทูลขอให้พระเจ้าช่วยให้เราวางใจว่า

          พระองค์จะทรงอยู่กับเรา เราเชื่อในพระสัญญาได้ว่า พระเยซูจะจัดเตรียมที่ไว้สำหรับเราในบ้านของพระบิดา (ยอห์น 14:2-3)
                ด้วยความอาลัยรัก

                                                                                  บุคลากรโรงพยาบาลแมคคอร์มิค
   13   14   15   16   17   18   19   20