Page 3 - ชนิดคอมพิวเตอร์
P. 3

1














                     พัฒนาการทางคอมพิวเตอร์ได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จากอดีต

              เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้หลอดสุญญากาศขนาดใหญ่ ใช้พลังงานไฟฟ้ามาก และ

              อายุการใช้งานต่่า เปลี่ยนมาใช้ทรานซิสเตอร์ที่ท่าจากชินซิลิกอนเล็ก ๆ ใช้พลังงาน

              ไฟฟ้าต่่า และผลิตได้จ่านวนมาก ราคาถูก ต่อมาสามารถสร้างทรานซิสเตอร์จ่านวน

              หลายแสนตัวบรรจุบนชิ้นซิลิกอนเล็ก ๆ เป็นวงจรรวมที่เรียกว่า ไมโครชิป

              (microchip)  และใช้ไมโครชิปเป็นชิ้นส่วนหลักที่ประกอบอยู่ในคอมพิวเตอร์ ท่าให้ขนาด

              ของคอมพิวเตอร์เล็กลง

              ไมโครชิปที่มีขนาดเล็กนี้สามารถท่างานได้หลายหน้าที่ เช่น ท่าหน้าที่เป็นหน่วยความจ่า

              ส่าหรับเก็บข้อมูล ท่าหน้าที่เป็นหน่วยควบคุมอุปกรณ์รับเข้าและส่งออก หรือท่าหน้าที่

              เป็นหน่วยประมวลผลกลาง ที่เรียกว่า ไมโครโพรเซสเซอร์ ไมโครโพรเซสเซอร์

              หมายถึงหน่วยงานหลักในการคิดค่านวณ การบวกลบคูณหาร การเปรียบเทียบ การ

              ด่าเนินการทางตรรกะ ตลอดจนการสั่งการเคลื่อนข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง

              หน่วยประมวลผลกลางนี้เรียกอีกอย่างว่า ซีพียู (Central Processing Unit : CPU)

                     การพัฒนาไมโครชิปที่ท่าหน้าที่เป็นไมโครโพรเซสเซอร์มีการกระท่าอย่างต่อเนื่อง

              ท่าให้มีคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ ๆ ที่ดีกว่าเกิดขึ้นเสมอ จึงเป็นการยากที่จะจ่าแนกชนิดของ

              คอมพิวเตอร์ออกมาอย่างชัดเจน เพราะเทคโนโลยีได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว ขีด

              ความสามารถของคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กอาจมีประสิทธิภาพสูงกว่าคอมพิวเตอร์

              ขนาดใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามพอจะจ่าแนกชนิดคอมพิวเตอร์ตามสภาพการท่างานของ

              ระบบเทคโนโลยีที่ประกอบอยู่และสภาพการใช้งานได้ดังนี้
   1   2   3   4   5   6   7   8