Page 19 - งานนำเสนอ PowerPoint
P. 19
17
ประวัติของการส ารวจอวกาศ
ในช่วงศตวรรษที่ 16 โคเปอร์นิคัส (Copernicus) เสนอความคิดล้ ายุคที่ว่า ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะ นี่เป็นแนวคิดที่ดูหมิ่น
ศาสนา (Blasphemy) อย่างมาก เพราะทุกๆคนในสมัยนั้นเชื่อว่าโลกต่างหากที่เป็นศูนย์กลาง และมีแบบจ าลองต่างๆมากมายที่สร้างขึ้นเพื่อยืนยันเช่นนั้น
ช่วงศตวรรษที่ 17 เป็นยุคของกาลิเลโอ (Galileo) ผู้เป็นนักวิทยาศาสตร์ยุคใหม่คนแรก เขาใช้กล้องโทรทรรศน์ (Telescope) เพื่อส ารวจดูวัตถุต่างๆบน
ท้องฟ้า กาลิเลโอได้ค้นพบดวงจันทร์ที่สว่างที่สุดของดาวพฤหัสสี่ดวง ซึ่งเปรียบได้เป็นระบบสุริยะแบบย่อมๆ นอกจากนี้เขายังค้นพบว่ามีจุดมืดบนดวง
อาทิตย์ (Sun Spots) รวมถึงหลุมอุกกาบาต (Creator) และภูเขาบนดวงจันทร์
ในปลายช่วงศตวรรษเดียวกันนี้ เคปเลอร์ (Kepler) ได้พัฒนา “กฎสามข้อว่าด้วยการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์” (Three Laws of Planetary Motion)
ขึ้น ซึ่งกล่าวไว้ว่า “ก าลังสองของคาบการโคจรของดาวเคราะห์เป็นสัดส่วนโดยตรงกับก าลังสามของกึ่งแกนเอก จินตนาการและความส าเร็จทางด้าน
วิทยาศาสตร์ได้น าไปสู่การค้นพบดวงจันทร์และดาวเคราะห์อีกหลายดวง รวมถึงทางช้างเผือก (The Milky Way) และกาแล็กซีอื่นๆ แต่ประวัติศาสตร์ก็
ได้มาถึงจุดเปลี่ยนในวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ.1957 เมื่อสหภาพโซเวียต (The Soviet Union) ได้ส่ง “สปุตนิก 1” (Sputnik 1) ขึ้นไปในอวกาศ นี่เป็น
ดาวเทียม (Satellite) ดวงแรกที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยมีขนาดเท่าๆกับลูกบาสเก็ตบอลประชาชนทั่วโลกรวมถึงชาวอเมริกันเองได้ให้ความสนใจและต้อง
ประหลาดใจอีกครั้ง เมื่อสหภาพโซเวียตส่ง “สปุตนิก 2” ขึ้นสู่อวกาศอีก ตอนนี้สหภาพโซเวียตได้คะแนนในด้านเทคโนโลยีอวกาศไป 2 แต้มแล้ว
ในขณะที่สหรัฐฯมีแค่ศูนย์