Page 22 - เล่มที่ 1 เรื่อง การเกิดปิโตรเลียมและแหล่งปิโตรเลียม
P. 22
22
การส ารวจน้ ามันดิบในประเทศไทย
มีการส ารวจครั้งแรกใน พ.ศ. 2464 พบที่อ าเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และพบแก๊สธรรมชาติที่มีปริมาณ
มากพอเชิงพาณิชย์ในอ่าวไทยเมื่อ พ.ศ. 2516 ต่อมาพบที่อ าเภอน้ าพอง จังหวัดขอนแก่น และ บ่อน้ าน้ ามัน "แหล่ง
สิริกิติ์" อ าเภอลานกระบือ จังหวัดก าแพงเพชร
ปริมาณส ารองปิโตรเลียมในประเทศไทย มีปริมาณที่ประเมินได้ดังนี้
น้ ามันดิบ 806 ล้านบาร์เรล
แก๊สธรรมชาติ 32 ล้านลูกบาศก์ฟุต
แก๊สธรรมชาติเหลว 688 ล้านบาร์เรล
แหล่งน้ ามันดิบใหญ่ที่สุดของประเทศ ได้แก่ น้ ามันดิบเพชรจากแหล่งสิริกิติ์ กิ่งอ าเภอลานกระบือ จังหวัด
ก าแพงเพชร แหล่งผลิตแก๊สธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดอยู่ในอ่าวไทยชื่อว่า แหล่งบงกช เจาะส ารวจพบเมื่อ พ.ศ. 2523
แหล่งสะสมปิโตรเลียมขนาดใหญ่ที่สุดของโลกอยู่ที่ อ่าวเปอร์เซีย รองลงมาคือบริเวณอเมริกากลาง
อเมริกาเหนือ และรัสเซีย ปิโตรเลียมที่พบบริเวณประเทศไนจีเรียเป็นแหล่งปิโตรเลียมที่มีคุณภาพดีที่สุด เพราะมี
ปริมาณสารประกอบก ามะถันปนอยู่น้อยที่สุดทั้งนี้ พื้นที่สัมปทานนั้นถูกจัดสรรไว้เหมือนเป็นพื้นที่ศึกษาและส ารวจ
แหล่งปิโตรเลียม เป็นพื้นที่ที่มีการประเมินแล้วว่ามีโอกาสที่จะพบปิโตรเลียม เพราะมีการศึกษาทางธรณีวิทยา
เบื้องต้นแล้วพบว่ามีองค์ประกอบของปิโตรเลียมตามที่กล่าวไว้ข้างต้น (หินต้นก าเนิด หินกักเก็บ และหินปิดกั้น) แต่
ไม่ได้หมายความว่าทุกพื้นที่จะประสบความส าเร็จในการค้นพบปิโตรเลียม
ปีพ.ศ.2514 รัฐบาลได้ออกพระราชบัญญัติปิโตรเลียม ท าให้เอกชนสนใจแหล่งปิโตรเลียมกันอย่าง
กว้างขวาง จนกระทั่งปีพ.ศ.2516 ได้พบก๊าซธรรมชาติเป็นจ านวนมากครั้งแรกในอ่าวไทยในหลุมผลิตของ บริษัท
ยูโนแคลไทยแลนด์ จ ากัด ชื่อว่า “แหล่งเอราวัณ” ซึ่งสามารถพัฒนาขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้
ภาพที่ 1.17 พื้นที่แหล่งเจาะส้ารวจ ปิโตรเลียม
(ที่มา : หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ สารและสมบัติของสาร ชั้น ม.4-6)