Page 391 - กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับงานจราจร
P. 391
๓๘๔
เมื่อเลขาธิการอนุญาต และลงนามในคําสั่งใหอายัดทรัพยสินแลว ใหสงเรื่องคืนไปให
สํานักงานหรือเจาหนาที่ดังกลาว แลวแตกรณี เพื่อดําเนินการตอไป
ขอ ๔๘ เจาหนาที่อาจอายัดสังหาริมทรัพยอันมีรูปรางและอสังหาริมทรัพย รวมทั้ง
สิทธิทั้งปวงอันมีอยูในทรัพยเหลานั้น หรือเงินที่บุคคลภายนอกจะตองสงมอบหรือโอนหรือชําระใหแก
ผูตองชดใชเงิน ในการอายัดดังกลาว ใหเจาหนาที่มีอํานาจที่จะยึดบรรดาเอกสารทั้งปวงที่ใหสิทธิหรือ
รับรองสิทธิใหแกผูตองชดใชเงินในอันที่จะไดรับการสงมอบหรือรับการโอนทรัพยสินหรือสิทธิหรือได
รับการชําระเงินเชนวานั้น
ใหนําความในหมวด ๒ การยึดทรัพยสิน สวนที่ ๑ วิธีการยึดทรัพยสิน มาปฏิบัติกับวิธีการ
อายัดทรัพยสินโดยอนุโลม
ขอ ๔๙ เจาหนาที่ยอมไมอายัดทรัพยสินที่พนักงานเจาหนาที่อื่นไดยึดหรืออายัดไว
กอนแลว หรือทรัพยสินที่มีกฎหมายบัญญัติใหไมอยูในความรับผิดแหงการบังคับคดี
เมื่ออายัดทรัพยสินใดแลว ปรากฏในภายหลังวาทรัพยสินที่อายัดนั้นเปนของบุคคล
อื่นหรือไมมีความจําเปนตองอายัดทรัพยสินนั้นตอไปแลว ใหเจาหนาที่รายงานใหเลขาธิการทราบ
เพื่อพิจารณาดําเนินการเพิกถอนการอายัดทรัพยสินนั้นตอไป
ขอ ๕๐ หามอายัดทรัพยสินของผูตองชดใชเงิน ดังตอไปนี้
(๑) เบี้ยเลี้ยงชีพซึ่งกฎหมายกําหนดไวและเงินรายไดเปนคราว ๆ อันบุคคลภายนอก
ไดยกใหเพื่อเลี้ยงชีพเปนจํานวนรวมกันไมเกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท หรือตามจํานวนที่เลขาธิการ
เห็นสมควร
(๒) เงินเดือน คาจาง บํานาญ บําเหน็จ เบี้ยหวัด หรือรายไดอื่นในลักษณะเดียวกันของ
ขาราชการ เจาหนาที่ หรือลูกจางในหนวยราชการ และเงินสงเคราะห บํานาญ หรือบําเหน็จที่หนวยราชการ
ไดจายใหแกคูสมรส หรือญาติที่ยังมีชีวิตของบุคคลเหลานั้น
(๓) เงินเดือน คาจาง บํานาญ คาชดใช เงินสงเคราะห หรือรายไดอื่นในลักษณะเดียวกัน
ของพนักงาน ลูกจาง หรือคนงาน นอกจากที่กลาวไวใน (๒) ที่นายจางจายใหแกบุคคลเหลานั้น หรือ
คูสมรสหรือญาติที่ยังมีชีวิตของบุคคลเหลานั้น เปนจํานวนรวมกันไมเกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาทหรือ
ตามจํานวนที่เลขาธิการเห็นสมควร
(๔) เงินฌาปนกิจสงเคราะหที่ผูตองชดใชเงินไดรับอันเนื่องมาแตความตายของบุคคล
อื่นเปนจํานวนตามที่จําเปนในการดําเนินการฌาปนกิจศพตามฐานะของผูตายที่เลขาธิการเห็นสมควร
ในการกําหนดจํานวนเงินตาม (๑) และ (๓) ใหเลขาธิการกําหนดใหไมนอยกวาอัตราเงิน
เดือนขั้นตํ่าสุดของขาราชการพลเรือนในขณะนั้น และไมเกินอัตราเงินเดือนขั้นสูงสุดของขาราชการ
พลเรือนในขณะนั้น ทั้งนี้ โดยคํานึงถึงฐานะของครอบครัวของผูตองชดใชและจํานวนบุพการี และ
ผูสืบสันดานซึ่งอยูในความอุปการะของผูตองชดใชเงินดวย

