Page 18 - benlocal
P. 18

ก่อนที่อีหม่ามเลานะจะเสียชีวิต ประมาณ ๒-๓ ปี คือราวปีพ.ศ. ๒๔๗๓ ได้มีผู้รู้ทางศาสนา

           เชื้อสายปากีสถานท่านหนึ่งชื่อ ๐ท่านโมลวีกายิมมาคิน๑ อพยพมาจากประเทศปากีสถาน เป็นผู้

           มีชื่อเสียงมากในการอ่านพระมหาคัมภีร์-กุรอ่าน ได้อย่างมีความไพเราะเพราะพริ้ง ท่านอาศัย

           อยู่ในย่านช้างคลาน เมื่ออีหม่ามเลานะเสียชีวิตลง ชาวมุสลิมช้างเผือกในยุคนั้นได้เชิญให้ท่าน

           มาเป็นอีหม่ามประจํามัสยิดสืบแทน ท่านได้ทําหน้าที่อีหม่ามประจํามัสยิดดุน-นุร (ช้างเผือก)

           เป็นเวลาถึง ๓๐ ปี ท่านเป็นผู้มีความประพฤติอันงดงาม ปฏิบัติศาสนกิจ อย่างเคร่งครัด

           สมํ่าเสมอ ตลอดการมีชีวิตของท่าน อีกทั้งท่านยังได้สร้างความเจริญก้าวหน้า ในด้านการศึกษา

           สังคมให้กับชุมชนมุสลิมช้างเผือกอย่างมาก เมื่อท่านถึงแก่กรรมศพของท่านถูกฝั่งไว้ในบริเวณ

           เขตกําแพงมัสยิด ด้านขาวมือของประตูมัสยิด ปัจจุบัน ลูกหลานของท่านได้ย้าย ไปฝั่งยังกุโบร์



                   ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๙๔ คณะกรรมการมัสยิดและสัปปุรุษ เห็นควรให้มีการปรับปรุงสร้าง
               อาคารมัสยิดขึ้นใหม่ เนื่องจากอาคารมัสยิดเดิมชํารุดทรุดโทรมลงมาก พี่น้องมุสลิมที่อพยพ


               เข้ามาอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมมือร่วมใจ กัน ระดมทุนเพื่อช่วยในการก่อสร้างมัสยิด โดยมี
               คณะกรรมการควบคุมการก่อสร้าง ในสมัยนั้นคือ ฮัจญีศรีบุตร วารีย์ เป็นประธาน และ มี


               นายนานา มูฮัมมัด หุเซ็น นายน้อย บรรณศักดิ์ นายซิดดิก เจ้าดูรี เป็นกรรมการ และมัสยิด
               สําเร็จลุล่วงด้วยดีในปี พ.ศ. ๒๔๙๖ เป็นอาคารชั้นเดียวก่ออิฐถือปูน หลังคาเป็นกระโจมรูป


               เดิม แลดูมั่นคงสง่างาม ตามลักษณะสถาปัตยกรรมแบบปากีสถาน และยังคงตั้งเด่นอยู่ริม

                       ถนนโชตนา ตลาดช้างเผือกปัจจุบันถนนช้างเผือก ตําบลช้างเผือก อําเภอเมือง


                        จังหวัดเชียงใหม่ 50300



  โรงเรียนเทศบาลวัดเชียงยืน
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23