Page 1896 - บทคดยอการทดลองสนสด 58 สมบรณ_Neat
P. 1896

กำหนดค่า National MRL, ASEAN MRL และ CODEX MRL ต่อไป นอกจากนี้ได้สุ่มเก็บถั่วฝักยาว

                       จากแหล่งจำหน่าย ระหว่าง พ.ศ. 2556 - 2558 จำนวน 114 ตัวอย่าง จากจังหวัดสมุทรสาคร

                       สมุทรสงคราม จันทบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง ราชบุรี นครปฐม กาญจนบุรี และนนทบุรี วิเคราะห์สารพิษ
                       ตกค้างกลุ่ม organophosphate 24 ชนิด กลุ่ม pyrethroid 7 ชนิด กลุ่ม endosulfan 3 isomer ได้แก่

                       a - endosulfan, b - endosulfan และ endosulfan - sulfate และ indoxacarb ด้วย   GC - FPD,
                       GC - ECD และ LC - MS/MS มีเพียง 47 ตัวอย่าง ไม่พบสารพิษตกค้าง ที่เหลือ 67 ตัวอย่าง ตรวจพบ

                       สารพิษตกค้าง 12 ชนิด ปริมาณ 0.01 - 14.88 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ได้แก่ chlorpyrifos 17 ตัวอย่าง

                       (0.01 - 1.44 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) cypermethrin 34 ตัวอย่าง (0.01 - 14.88 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม)
                       endosulfan 11 ตัวอย่าง (0.01 - 2.0 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) ethion 7 ตัวอย่าง (0.01 - 0.05 มิลลิกรัม

                       ต่อกิโลกรัม) omethoate 5 ตัวอย่าง (0.02 - 4.21 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) triazophos 3 ตัวอย่าง

                       (0.06 - 0.56 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) L - cyhalothrin 3 ตัวอย่าง (0.01 - 0.11 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม)
                       deltamethrin 2 ตัวอย่าง (0.03 - 0.05 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) profenofos 2 ตัวอย่าง (0.02 - 0.83

                       มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) dimethoate 1 ตัวอย่าง (0.93 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) pirimiphos - methyl
                       1 ตัวอย่าง (0.01 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) permethrin 1 ตัวอย่าง (0.01 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) ส่วน

                       indoxacarb ตรวจไม่พบในทุกตัวอย่าง นอกจากนี้ cypermethrin ที่พบปริมาณสูงสุดคือ 14.88

                       มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม เป็นตัวอย่างที่เก็บจากจังหวัดนครปฐม อย่างไรก็ตามเมื่อนำปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด
                       ที่พบแต่ละชนิดมาประเมินความเสี่ยงที่จะได้รับต่อการบริโภคแบบเฉียบพลัน และแบบเรื้อรัง พบว่า

                       เกือบทุกตัวอย่างของถั่วฝักยาวทั้งจากแปลงและจากแหล่งจำหน่าย ไม่เกิดอาการแบบเฉียบพลันหรือแบบ
                       เรื้อรังจากการบริโภค เมื่อเปรียบเทียบกับ acute reference dose (ARfD) และ acceptable dietary

                       intake (ADI) ของวัตถุมีพิษนั้นๆ

                       6. การนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์
                              1. นำผลการทดลองทั้ง 6 ครั้ง เพื่อนำไปกำหนดค่า National MRL, ASEAN MRL และ CODEX

                       MRL

                              2. ผลการทดลองการสำรวจสารพิษตกค้างจากแหล่งจำหน่ายนำเสนอกรมวิชาการเกษตร นำข้อมูล
                       ร่วมพิจารณากำหนดแนวทางในการแนะนำ การใช้วัตถุมีพิษในถั่วฝักยาวให้แก่เกษตรกรต่อไป

                              3. นำข้อมูลชนิดของสารพิษตกค้างที่พบแต่ไม่มีกำหนดในฉลาก นำเสนอกรมวิชาการเกษตร

                       เพื่อแนะนำการเลือกใช้วัตถุอันตรายของเกษตรกร และหาเครือข่ายการให้คำแนะนำการใช้ฯ ที่ถูกต้อง
                       จากร้านจำหน่ายวัตถุอันตรายทางการเกษตร

                              4. นำเสนอกรมวิชาการเกษตรเพื่อกำหนดแนวทางและทิศทางการใช้วัตถุอันตรายในอนาคต
                       และกำหนดนโยบายด้านวัตถุอันตรายตั้งแต่การขึ้นทะเบียนถึงการใช้ของสารที่เป็นปัญหาต่างๆ
















                                                          1829
   1891   1892   1893   1894   1895   1896   1897   1898   1899   1900   1901