Page 364 - บทคดยอการทดลองสนสด 58 สมบรณ_Neat

N-P 2O 5-K 2O มีความสูงมากที่สุด 203 เซนติเมตร และ การไม่ใส่ปุ๋ยมีความสูงน้อยที่สุด 123 เซนติเมตร
ทางด้านผลผลิตหัวสดพันธุ์ห้วยบง 60 ให้ผลผลิตสูงที่สุด 6,233 กิโลกรัมต่อไร่ ในขณะที่พันธุ์ระยอง 9

และ 11 ให้ผลผลิตไม่แตกต่างกัน คือ 5,033 และ 4,637 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ สำหรับการใส่ปุ๋ย

24-8-16 และ 32-8-16 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P 2O 5-K 2O ให้ผลผลิตสูงสุด คือ 6,635 และ 6,681 กิโลกรัมต่อไร่
ตามลำดับ ซึ่งการไม่ใส่ปุ๋ยให้ผลผลิตต่ำสุดเพียง 2,689 กิโลกรัมต่อไร่ ทางด้านองค์ประกอบผลผลิต พบว่า

เปอร์เซ็นต์แป้งในพันธุ์ระยอง 9 และ 11 สูงกว่าพันธุ์ห้วยบง 60 ซึ่งการใส่ปุ๋ยอัตราต่างกันไม่ทำให้

เปอร์เซ็นต์แป้งต่างกัน จำนวนต้นเก็บเกี่ยวทั้ง 3 พันธุ์ไม่แตกต่างกัน สำหรับดัชนีการเก็บเกี่ยวในพันธุ์
ห้วยบง 60 มีค่ามากที่สุด คือ 0.80 และการใส่ปุ๋ย 0-8-16 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P 2O 5-K 2O ให้ค่าสูงที่สุด

คือ 0.79 ในขณะที่การใส่ปุ๋ย 32-8-16 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P 2O 5-K 2O ให้ค่าดัชนีการเก็บเกี่ยวน้อยที่สุด
คือ 0.71

ปี 2556 - 2558 ดำเนินการในกลุ่มดินทราย ชุดดินขอนแก่น วางแผนการทดลองแบบ split-plot

ปัจจัยหลัก คือ มันสำปะหลัง 2 พันธุ์ คือ เกษตรศาสตร์ 50 และ ระยอง 86-13 ปัจจัยรอง คือ ไนโตรเจน

4 อัตรา คือ 0 8 16 และ 24 กิโลกรัม N ต่อไร่ ฟอสฟอรัส 4 อัตรา คือ 0 4 8 และ 16 กิโลกรัม P 2O 5
ต่อไร่ และโพแทสเซียม 4 อัตรา คือ 0 8 16 และ 24 กิโลกรัม K 2O ต่อไร่ ผลการทดลอง ปี 2557 พบว่า
คุณสมบัติทางเคมีของดินก่อนปลูกที่ระดับความลึก 0 - 20 เซนติเมตร ดินมีค่าความเป็นกรด-ด่าง 5.42

อินทรียวัตถุ 0.82 ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ได้ในดิน 42.93 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และโพแทสเซียม

ที่แลกเปลี่ยนได้ 36.50 และที่ระดับความลึก 20 - 50 เซนติเมตร ดินมีค่าความเป็นกรด-ด่าง 5.48
อินทรียวัตถุ 0.75 เปอร์เซ็นต์ ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ได้ในดิน 44.95 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และโพแทสเซียม

ที่แลกเปลี่ยนได้ 26.00 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ทางด้านการเจริญเติบโต วัดจากความสูงของต้นเมื่อมันสำปะหลัง

อายุ 7 เดือน พบว่า มันสำปะหลังพันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 มีความสูงมากกว่าพันธุ์ระยอง 86 - 13 คือ 244
และ 181 เซนติเมตร ตามลำดับ สำหรับการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนที่อัตรา 24 กิโลกรัม N ต่อไร่ มีความสูง

มากที่สุด 235 เซนติเมตร แต่ไม่แตกต่างจากการใช้ฟอสฟอรัส 0 และ 16 กิโลกรัม P 2O 5 ต่อไร่ และการใช้

โพแทสเซียม 0 และ 24 กิโลกรัม K 2O ต่อไร่ ในขณะที่การไม่ใช้ปุ๋ยไนโตรเจน มันสำปะหลังมีความสูง
น้อยที่สุด คือ 164 เซนติเมตร สำหรับผลผลิตหัวสดการใช้ปุ๋ยอัตรา 24-8-16 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P 2O 5-K 2O

ให้ผลผลิตหัวสดสูงที่สุด 6,662 กิโลกรัมต่อไร่ ในขณะที่การใช้ปุ๋ย 16-8-0 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P 2O 5-K 2O
ให้ผลผลิตมันแห้งสูงที่สุด 2,662 กิโลกรัมต่อไร่ การใช้ปุ๋ย 0-8-16 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P 2O 5-K 2O

ให้ผลผลิตหัวสด และผลผลิตมันแห้งต่ำที่สุดเพียง 3,432 และ 1,373 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ ทางด้านพันธุ์

ให้ผลผลิตหัวสด และมันแห้งไม่แตกต่างกัน สำหรับเปอร์เซ็นต์แป้ง จำนวนต้นเก็บเกี่ยว และดัชนีการเก็บเกี่ยว
ไม่พบความแตกต่างทั้งด้านปัจจัยปุ๋ย และปัจจัยพันธุ์ ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ พบว่า การปลูกมันสำปะหลัง

พันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 มีกำไรสุทธิเฉลี่ยสูงสุด 10,606 บาทต่อไร่ รองลงมาคือพันธุ์ ระยอง 86-13 มีกำไร
สุทธิเฉลี่ย 9,140 บาทต่อไร่ ส่วนการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนที่ 24 กิโลกรัม N ต่อไร่ ให้ผลตอบแทนคุ้มค่ากับการ

ลงทุนมากที่สุด คือมีกำไรสุทธิเฉลี่ย 15,102 บาทต่อไร่ มี MRR เท่ากับ 1,336 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการใช้ปุ๋ย

ฟอสฟอรัสทุกระดับให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกัน และการใช้ปุ๋ยโพแทสเซียมที่ระดับ 16 กิโลกรัม K 2O ต่อไร่

297