Page 386 - บทคดยอการทดลองสนสด 58 สมบรณ_Neat
P. 386
รายงานผลการทดลองสิ้นสุด ปี 2558
1. ชุดโครงการวิจัย วิจัยและพัฒนามันสำปะหลัง
2. โครงการวิจัย วิจัยและพัฒนาวิธีการเขตกรรมมันสำปะหลัง
3. ชื่อการทดลอง ศึกษาวิจัยความชื้นของดินต่อความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารพืชใน
พื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง
Study on Soil Moisture on Plant Nutrients Available in Cassava
4. คณะผู้ดำเนินงาน ปฏิมาภรณ์ จินจาคาม อนุสรณ์ เทียนศิริฤกษ์ 1/
1/
3/
รัชดา ปรัชเจริญวนิชย์ วุฒิพล จันสระคู 4/
ศราวุฒิ ปานทน วนิดา โนบรรเทา 1/
5/
วัลลีย์ อมรพล
2/
5. บทคัดย่อ
น้ำในดินเป็นตัวทำละลายและเคลื่อนย้ายธาตุอาหารพืชในดิน ในการละลายของธาตุอาหารนั้น
เกี่ยวข้องกับความชื้นของดิน โดยที่ความชื้นของดินจะเป็นตัวกลางที่ทำให้ธาตุอาหารพืชนั้นละลายอยู่ใน
น้ำ และสามารถูกดูดใช้ได้โดยพืช ในดินชนิดเดียวกัน การละลายของธาตุอาหารพืชก็แตกต่างกันไปตาม
ปริมาณความชื้นที่ได้รับ และในดินที่ต่างชนิดกัน การละลายของธาตุอาหารก็แตกต่างกันด้วยแม้ว่าจะมี
ปริมาณความชื้นที่เท่ากัน ในการทดลองนี้จึงทำการศึกษาปริมาณความชื้นที่มีผลต่อการละลายของธาตุ
อาหารพืช โดยทำการศึกษาจากการให้น้ำที่ปริมาณต่างกัน เพื่อดูว่าดินที่ทำการศึกษานั้น มีคุณสมบัติการ
ปลดปล่อยธาตุอาหารมากน้อยต่างกันตามปริมาณความชื้นของดิน จึงได้ทำการทดลองโดยวางแผนการ
ทดลองแบบ RCB 4 ซ้ำ 7 กรรมวิธี คือ ไม่ให้น้ำ ให้น้ำที่ 12.5, 25.0, 37.5, 50.0, 62.5 และ 75 %AWC
จากผลการทดลองปี 2554-2556 พบว่า มันสำปะหลังจะดูดดึงไนโตรเจนไปสะสมในใบมากที่สุด
รองลงมาจะเป็นต้น เหง้า และน้อยมากในหัวสด ฟอสฟอรัสจะถูกดูดดึงไปสะสมในต้นมากที่สุด รองลงมา
เป็นใบ เหง้า และหัวสด ตามลำดับ ส่วนโพแทสเซียมจะถูกดูดดึงไปสะสมมากในหัวสด รองลงมาจะเป็น
ต้น เหง้า และใบ ตามลำดับ โดยเมื่อให้น้ำในระดับที่ไม่เกิน 37.5%AWC มันสำปะหลังจะดูดดึงไนโตรเจน
ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมได้มากกว่าระดับน้ำที่มากกว่านี้
___________________________________________
1/ กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร
2/ ศูนย์วิจัยพืชไร่ระยอง
3/ สถาบันวิจัยพืชไร่และพืชทดแทนพลังงาน
4/ ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น
5/ สถาบันวิจัยเกษตรวิศวกรรม
319