Page 392 - บทคดยอการทดลองสนสด 58 สมบรณ_Neat
P. 392
รายงานผลการทดลองสิ้นสุด ปี 2558
1. ชุดโครงการวิจัย วิจัยและพัฒนามันสำปะหลัง
2. โครงการวิจัย วิจัยและพัฒนาวิธีการเขตกรรมมันสำปะหลัง
3. ชื่อการทดลอง การปรับปรุงดินด้วยวัสดุอินทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีเพื่อเพิ่มผลผลิต
และคุณภาพผลผลิตมันสำปะหลังระยะยาวในดิน 3 ชุดดิน
Cassava Long - Term Fertility Trials in 3 Soils Series
1/
4. คณะผู้ดำเนินงาน สมควร คล้องช้าง กอบเกียรติ ไพศาลเจริญ 2/
3/
วัลลีย์ อมรพล เสาวรี บำรุง 4/
อนุศาสตร์ สุ่มมาตร 4/
5. บทคัดย่อ
พื้นที่ปลูกมันสำปะหลังปี 2556 ของประเทศมี 9 ล้านไร่ ประมาณ 6.67 ล้านไร่ จัดเป็นดินทราย
ดินร่วนทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ อยู่ในสภาพต้องอาศัยน้ำฝนซึ่งมีปัญหาต่อการผลิตพืช และมัน
สำปะหลังเป็นพืชความหวังของเกษตรกรด้อยโอกาสที่เพาะปลูกมันสำปะหลังมาอย่างต่อเนื่องมากกว่า
50 ปี มีการบำรุงรักษาดินที่ไม่เหมาะสม และประกอบกับลักษณะพื้นที่เป็นลอนคลื่นมีความลาดเอียง ยิ่ง
เป็นการเพิ่มการสูญหายหน้าดินจากการพัดพาของน้ำฝน คุณภาพดินเสื่อมโทรม ส่งผลต่อการเจริญเติบโต
และผลผลิตมันสำปะหลังจึงลดต่ำลงมาก การทดลองระยะยาวของการใส่ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และการ
ไถกลบต้นใบมันสำปะหลังในหลายรูปแบบของวิธีใช้กับมันสำปะหลัง เพื่อให้ได้ข้อมูลการเปลี่ยนแปลง
สถานะความอุดมสมบูรณ์ของดินปลูกมันสำปะหลัง และการเจริญเติบโต และผลผลิตที่มีคุณภาพ
ดำเนินการในปีแรกเมื่อปี 2518 ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่ระยอง จังหวัดระยอง เป็นดินร่วนเหนียวปนทราย ชุดดิน
ห้วยโป่ง (Clayey, mixed, Typic Paleudult) และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครราชสีมา จังหวัด
นครราชสีมา เป็นดินร่วนทราย ชุดดินโคราช (fine-loamy, siliceous, Oxic Paleustult) และปี 2519
จัดทำการทดลองเพิ่มอีก 1 แห่ง ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่ขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เป็นดินร่วนทราย ชุดดิน
ยโสธร (fine-loamy, siliceous, Oxic Paleustult) จัดทำกรรมวิธีการทดลอง 8 วิธีการ ประกอบด้วย
การใส่ปุ๋ยไนโตรเจน ฟอสเฟต และโพแทช การใช้ผสมผสานกันของปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ การไถกลบต้นใบ
มันสำปะหลัง และการไม่ใช้ปุ๋ยกับมันสำปะหลังปลูกต้นฤดูฝนของปี พบในจังหวัดระยอง จังหวัด
นครราชสีมา มีการใช้ปุ๋ยไนโตรเจน และฟอสฟอรัสอย่างต่อเนื่องนานกว่า 40 ปี และในจังหวัดขอนแก่น
มีการใช้ปุ๋ยไนโตรเจน และฟอสฟอรัสอย่างต่อเนื่องนานกว่า 39 ปี ทั้ง 3 สถานที่ปลูก แสดงให้เห็นชัดเจน
___________________________________________
1/ กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร
2/ สำนักผู้เชี่ยวชาญ
3/ ศูนย์วิจัยพืชไร่ระยอง
ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครราชสีมา
4/
325