Page 583 - บทคดยอการทดลองสนสด 58 สมบรณ_Neat
P. 583
รายงานผลการทดลองสิ้นสุด ปี 2558
1. ชุดโครงการวิจัย การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในสภาพแห้งแล้ง
2. โครงการวิจัย วิจัยเทคโนโลยีการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสมในสภาพแห้งแล้ง
3. ชื่อการทดลอง การจัดการปัจจัยการผลิตอย่างผสมผสานในการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
ที่เหมาะสมกับพันธุ์ดีเด่นในพื้นที่ดินเหนียว
Optimum Integrated Agricultural Inputs for Maize Production
in Clay Soils
4. คณะผู้ดำเนินงาน รัชดา ปรัชเจริญวนิชย์ ศุภกาญจน์ ล้วนมณี 2/
1/
3/
สมควร คล้องช้าง เสมอจิตต์ เกื้อหนุน 3/
สมฤทัย ตันเจริญ 3/
5. บทคัดย่อ
การศึกษาการใช้ปุ๋ยชีวภาพในการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เริ่มดำเนินการในปี 2554 - 2556 โดย
ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวโพดลูกผสมพันธุ์นครสวรรค์ 3 ในพื้นที่เกษตรกรอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
ในดินชุดโชคชัย พื้นที่ปลูกอยู่ในเขตฝนแล้ง คือปริมาณฝนน้อยกว่า 1,000 มิลลิเมตรต่อปี วางแผนการ
ทดลองแบบ split plot in RCBD จำนวน 3 ซ้ำ ปัจจัยหลัก คือการคลุกเมล็ดด้วย PGPR 1 มี 2 ระดับ
ได้แก่ 1) คลุกเมล็ดด้วย PGPR 1 2) ไม่คลุกเมล็ดด้วย PGPR 1 ปัจจัยรองได้แก่ วิธีการใส่ปุ๋ย มี 5 วิธีการ
ได้แก่ 1) ไม่ใส่ปุ๋ย 2) ใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ 3) 0.7 เท่าปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ 4) 0.7 เท่าปุ๋ยตาม
ค่าวิเคราะห์ + ปุ๋ยมูลวัว อัตรา 800 กิโลกรัมต่อไร่ และ 5) 0.7 เท่าปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ + เปลือกมันสำปะหลัง
อัตรา 800 กิโลกรัมต่อไร่ ผลการทดลองพบว่า การคลุกหรือไม่คลุกเมล็ดข้าวโพดด้วย PGPR 1 ก่อนปลูก
ไม่มีผลให้การเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีความแตกต่างกันทางสถิติ มีเพียง
ปี 2555 ที่การคลุกเมล็ดทำให้ความสูงต้นและความสูงฝักของข้าวโพดแตกต่างกันเล็กน้อย ปัจจัยสำคัญ
ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตของข้าวโพดคือการใส่ปุ๋ย ซึ่งพบว่า การใส่ปุ๋ยให้ผลดีกว่าการ
ไม่ใส่ปุ๋ย และการใส่ปุ๋ยอัตราตามค่าวิเคราะห์ดิน การลดอัตราปุ๋ยลงร้อยละ 30 หรือการใช้วัสดุอินทรีย์ใน
พื้นที่ ได้แก่ ปุ๋ยมูลวัว หรือ เปลือกมัน ร่วมกับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ไม่ทำให้ข้าวโพดที่ปลูกในดินเหนียวสีแดง
ชุดปากช่อง เขตฝนแล้ง มีการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตแตกต่างกัน ดังนั้น เกษตรกรสามารถลดการใช้
ปุ๋ยลงได้ร้อยละ 30 และจะใส่วัสดุอินทรีย์หรือไม่ก็ไม่มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิต
ของข้าวโพดลูกผสมพันธุ์นครสวรรค์ 3 ข้าวโพดนครสวรรค์ 3 มีการดูดใช้ธาตุอาหารสะสมอยู่ในใบ ต้น
เปลือกหุ้มฝัก เมล็ด และซัง คิดเป็น 2.98 0.74 และ 5.08 เปอร์เซ็นต์ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และ
โพแทสเซียม ตามลำดับ ดังนั้นการสูญเสียธาตุอาหารไปจากพื้นที่ ขึ้นอยู่กับการจัดการของเกษตรกร
ว่าจะนำส่วนใดของข้าวโพดออกจากพื้นที่
__________________________________________
1/ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครราชสีมา
2/ ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์
3/ กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร
516