Page 126 - คู่มือปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ภาคประชาชน
P. 126

ระวังอันตรายเรื่องข้อมูลส่วนตัว  3  CHAPTER




                   การที่ไม่มีสถาบันการเงินหรือองค์กรใดๆ รองรับ แปลว่า
               บิตคอยน์ต้องมีระบบควบคุมในตัวเองว่าใครถือเงินสกุลนี้ใน
               กระเป๋าอยู่เท่าไหร่ ไม่ใช่ใครจะบอกว่าฉันมีเงินอยู่เท่านั้นเท่านี้
               ก็อ้างลอยๆ ได้ วิธีการก็คือ ทุกครั้งที่มีการรับหรือจ่ายเงิน จะต้อง
               มีการเชื่อมต่อเน็ต และส่งข้อมูลไปบอกซอฟต์แวร์บิตคอยน์
               ในเครื่องอื่นๆ ว่าเงินมีการเปลี่ยนมือมูลค่าเท่าไหร่ (โดยไม่
               เปิดเผยว่าใครโอนให้ใคร แต่เป็นการจ�ากัดจ�านวนเงินที่มีไม่
               ให้พิมพ์หรือสร้างเงินขึ้นมาเองลอยๆ จนเกิดภาวะเงินเฟ้อ)
               ซึ่งจะมีการเข้ารหัสข้อมูลอย่างแน่นหนาไม่ให้แก้ไขตามชอบใจได้
                   นอกจากนี้เพื่อรองรับการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ บิตคอยน์
               ก็มีระบบที่ยอมให้สร้างหรือพิมพ์เงินเพิ่มได้ในปริมาณจ�ากัดทีละน้อย โดย
               ผู้ที่จะท�าเพิ่มจะต้องเอาเครื่องคอมพิวเตอร์มาค�านวณตามสูตรเพื่อให้ได้รหัสที่ใช้แทนเงิน
               เพิ่มขึ้น และเป็นการช่วยตรวจสอบ transaction การโอนเงินบิตคอยน์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นไป
               ด้วย สูตรค�านวณนี้จะมีการปรับตัวเองให้ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ตามการขยายตัวในการใช้งาน
               บิตคอยน์ และยังเผื่อชดเชยความเร็วเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ๆ ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วย
               แปลว่าไม่ใช่จะสร้างเพิ่มกันได้ง่ายๆ หรือมากๆ จึงเรียกกันว่าเป็นการ "ขุด" หรือท�าเหมือง
               (mining) บิตคอยน์ นั่นเอง
                   อัตราแลกเปลี่ยนของบิตคอยน์นั้นไม่คงที่ อาจจะขึ้นลงทีละมากๆ หรือแกว่งแบบ
               หวือหวามากกว่าเงินสกุลอื่นๆ อยู่สักหน่อย ใครที่จะใช้หรือรับช�าระในสกุลเงินบิตคอยน์อาจ
               ต้องคอยปรับราคาเพื่อชดเชยอัตราแลกเปลี่ยนให้เหมาะสม
               ซึ่งปัจจุบันบางพื้นที่ เช่น รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ ก็ให้การ
               รับรองบิตคอยน์แล้ว หรือร้านออนไลน์ เช่น Dell ที่ขาย
               คอมพิวเตอร์ ก็เริ่มรับช�าระเงินด้วยบิตคอยน์แล้วเช่นกัน

                   ข้อดีของบิตคอยน์คือ ใครๆ ก็ใช้ได้ ไม่จ�าเป็นต้องมีบัญชีธนาคาร และไม่มีการคิด
               ค่าธรรมเนียม (processing fees) แบบสถาบันการเงิน เพราะเจ้าของเครื่องที่ช่วยควบคุม
               หรือตรวจสอบการรับ-จ่าย จะได้รางวัลหรือรายได้จ�านวนหนึ่งจากการท�า mining อยู่แล้ว

                   ข้อเสียของระบบช�าระเงินที่ไม่มีคนกลางแบบนี้ก็คือ ไม่สามารถสร้างทดแทนได้ ดังนั้น
               ถ้าเครื่องหรือฮาร์ดดิสก์ที่เก็บเงินบิตคอยน์ไว้เสียหรือสูญหาย และไม่ได้แบ็คอัพข้อมูลที่จะ
               น�ามา restore ในเครื่องใหม่ได้เอาไว้ เงินบิตคอยน์ดังกล่าวก็จะหายไปด้วย

                   อีกปัญหาของบิตคอยน์คือ การที่มันไม่มีข้อมูลการช�าระเงินว่าใครจ่ายใครให้ตามรอย
               ได้อย่างการท�าธุรกรรมอื่นๆ ที่ผ่านธนาคาร ท�าให้ถูกน�าไปใช้ในการโอนเงินที่ผิดกฎหมายได้
               มาก เช่นเดียวกับการจ่ายด้วยเงินสดที่เป็นธนบัตรหรือเหรียญนั่นเอง


                                                                             125
   121   122   123   124   125   126   127   128   129   130   131