Page 8 - wat
P. 8
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๘ สมเด็จกรมพระยาด ารง
ราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ได้เสด็จ
มาตรวจราชการมณฑลปักษ์ใต้ เมื่อได้ทรงทราบว่า
พระอุโบสถยังไม่มีพระประธานที่มีพุทธศิลป์คู่ควร
แก่พระอุโบสถซึ่งอยู่ใน พระราชูปถัมภ์ของ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จ
กรมพระยาด ารงราชานุภาพทรงรับพระธุระจัดหา
พระพุทธรูปองค์หนึ่งในจ านวนพระพุทธรูปโบราณ
๑,๒๔๘ องค์ ที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ฯ อัญเชิญมาจาก
จังหวัดสุโขทัยและหัวเมืองฝ่ายเหนือลงมาเก็บรักษาไว้ที่ระเบียงวัดพระเชตุพน
วิมลมังคลาราม เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย สมัยเชียงแสน หน้าตัก
กว้าง ๑ เมตร กับ ๔ นิ้ว (อนันต์ วัฒนานิกร.2528.42) จึงแจ้งมายังพระยา
เพ็ชราภิบาลนฤเบศรวาปีเขตต์มุจลินท์นฤบดินทร์สวามิภักดิ์ (พ่วง ณ
สงขลา) เจ้าเมืองหนองจิกทราบ และได้มอบหมายให้ หลวงนรกิจก าจร ปลัด
เมืองเดินทางขึ้นรับพระพุทธรูปมาประดิษฐานในพระอุโบสถในปีเดียวกัน
ต่อมาพระอุโบสถได้ทรุดโทรมลงตามกาลเวลาในสมัยที่ท่าน
พระครูพิบูลย์สมณวัตร (หลวงพ่อชุม จนฺทสุวณฺโณ) เป็นเจ้าอาวาส หลวงพ่อ
ชุมได้มีความพยายามทุกวิถีทางในการบูรณปฏิสังขรณ์ เพื่อให้พระอุโบสถหลัง
เดิมอยู่คู่กับวัดต่อไปชั่วกาลนาน แต่ก็ไม่สามารถจะบูรณะปฏิสังขรณ์ได้จึงต้อง
รื้อสร้างใหม่ โดยได้มอบภาระให้พระปลัดด า นนฺทิ
โย (หลวงพ่อด า) เป็นผู้อ านวยการในการสร้าง
และให้พระสมุห์เอี่ยม เขมโก (หลวงพ่อเอี่ยม) เป็น
ผู้อ านวยการในการช่าง
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๒ หลวงพ่อด า นนฺทิโย
ได้ไปกรุงเทพ ฯ เพื่อที่จะหาแบบแปลนมาสร้าง
~ ๘ ~
พระอุโบสถ