Page 23 - แนวทางการดูแลสุขภาพช่องปาก และการรักษาทางทันตกรรมสำหรับผู้มีภาวะปรีชานบกพร่องเล็กน้อย (Mild Cognitive Impairment) และผู้มีภาวะสมองเสื่อม (Dementia)
P. 23

 16
2.2 ผลกระทบจากสุขภาพชองปากท่ีอาจสงผลตอภาวะสมองเส่ือม
ในป 2024 ไดมีการรวบรวม 14 ปจจัยเสี่ยงเพื่ออธิบายปจจัยที่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อปองกัน หรือชะลอภาวะสมองเสื่อม ไดแก ระดับการศึกษา การสูญเสียการไดยิน ระดับไขมันในเลือด ภาวะซึมเศรา การบาดเจ็บของสมองจากแรงกระแทก การออกกําลังกาย โรคเบาหวาน การสูบบุหรี่ ความดันโลหิตสูง ภาวะอวน การใชแอลกอฮอล การละจากสังคม มลภาวะทางอากาศ และการสูญเสียการมองเห็น30 จะเห็นได วายังไมมีการรวมปจจัยสุขภาพชองปากมาเปนหนึ่งในปจจัยเสี่ยงตอภาวะสมองเสื่อมที่ไดรับการยอมรับ ในปจจุบัน แมวาจะมีการพยายามกลาวถึงโรคปริทันตวาเปนปจจัยที่มีการศึกษามาอยางดีที่อาจเปนปจจัยเส่ียง ตอภาวะสมองเสื่อม อีกทั้งยังเปนปจจัยที่สามารถปองกันและรักษาไดก็ตามในป 201531-33
จากการสืบคนการศึกษาแบบ systematic review & meta-analysis เกี่ยวกับสุขภาพชองปาก และภาวะสมองเสื่อมท้ังหมด พบวามีปจจัยทางสุขภาพชองปากมากมายท่ีมีการศึกษาวิจัยและพบความสัมพันธ กับการเสื่อมของสมอง แตพบวามี 3 ปจจัยหลัก ๆ ที่มี systematic review & meta-analysis มากที่สุด หรือกลาวไดวานาจะมีงานวิจัยเพียงพอที่สุด คือ 3 ปจจัยนี้ที่อาจมีหลักฐานทางวิชาการมากเพียงพอที่จะ รวบรวมขอมูลมาเปนบทสรุปใหเราได ดังน้ี
1) โรคปริทันต
การรวบรวมขอมูลจากหลากหลายงานวิจัยรวมทั้งการศึกษาระยะยาวไดผลออกมาในทิศทางเดียวกัน คือ โรคปริทันตมีความสัมพันธเกี่ยวของกับภาวะสมองเสื่อมอยางมีนัยสําคัญ23,24,26,34-39 โดยมีคา Odd ratio อยูที่ 1.78-4.8924 โดยความรุนแรงของโรคปริทันตมีผลตอความเสี่ยงที่มากขึ้น24,35 โดยบางงานวิจัยกลาววา โรคปริทันตที่มีความรุนแรงระดับกลางถึงรุนแรงเปนปจจัยเสี่ยงที่สําคัญของภาวะสมองเสื่อม23,40 และในการศึกษาระยะยาวพบวาผูที่มีโรคปริทันตแบบเรื้อรังยาวนานกวา 8 ป มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ตอภาวะสมองเสื่อมอีกดวย41 นอกจากนี้ยังพบวาผูที่เปนโรคปริทันตมีความเสี่ยงที่มากขึ้นตอภาวะปริชาน บกพรองเล็กนอยอีกดวย19
2) การสูญเสียฟนธรรมชาติ
ผลการศึกษาจากหลากหลายงานวิจัยรวมถึงงานวิจัยแบบ cohort study พบวาการสูญเสียฟน ธรรมชาติมีความสัมพันธอยางมีนัยสําคัญกับความเสี่ยงตอภาวะสมองเส่ือมที่มากขึ้น25,27,36,42-48 โดยผูที่สูญเสีย ฟนทั้งปากมีความเสี่ยงตอภาวะสมองเสื่อมมากกวาผูที่ยังมีฟนธรรมชาติหลงเหลืออยูถึง 1.15-1.4 เทา27,45 โดยหากนับการสูญเสียฟนแตละซี่น้ันพบวาการสูญเสียฟน 1 ซี่ทําใหมีความเส่ียงตอภาวะสมองเสื่อมท่ีมาก ขึ้นถึง 1.1%27 โดยการศึกษาลาสุดในป 2024 พบวาการเปนโรคปริทันตและการสูญเสียฟนธรรมชาติสงผล ทั้งโดยตรงและรวมกันเพิ่มความเส่ียงตอภาวะปริชานบกพรองเล็กนอยในผูที่มีอายุมากกวา 50 ปขึ้นไปอีกดวย47
3) การบดเค้ียว
การรวบรวมขอมูลจากหลากหลายงานวิจัยในป 2019 และ 2023 พบตรงกันวาผูที่มีปญหา การบดเคี้ยวมีโอกาสที่จะมีการเสื่อมของปริชานมากกวา25,49 โดยผูท่ีมีคะแนนต่ํากวาในการประเมินสมรรถภาพ ปริชาน พบวามีประสิทธิภาพการบดเค้ียวที่แยกวา มปี ญหาในการบดเคี้ยวมากกวา และมีจํานวนซ่ีฟนนอยกวา นอกจากนี้การศึกษาระยะยาวในป 2024 ที่มีการติดตามผูเขารวมวิจัยอยางตอเนื่องเปนเวลากวา 6 ป
 
























































































   21   22   23   24   25