Page 39 - จิตรกรรมปริศนาธรรมภาคใต้
P. 39

  สมัยรัชกําลที่ 4 ยังคงสืบทอดเทคนิคเชิงช่างตามแบบประเพณีสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ได้แก่ วรรณะพื้น สีเข้มคล้า พื้นหลังมืดเห็นภาพเลือนรางและเห็นภาพสาคัญโดดเด่นสวยงามตัวภาพมีขนาดและสัดส่วนเหมือนจริงมากข้ึน ในขณะท่ีบางส่วนของจิตรกรรมยังรักษาแบบประเพณีและอุดมคติไทยไว้อย่างเคร่งครัด รูปคน สัตว์มีแสงเงาไม่เป็นภาพ แบนราบ ภาพสถาปัตยกรรมและทิวทัศน์มีทัศนียวิสัย และใช้สีเพิ่มขึ้น ทาให้การประสานกันของสีต่างๆ กลมกลืนโดย ไม่ขัดสายตา ภาพบุคคลบางแห่งมีลักษณะเป็นภาพเหมือนจริงในขณะท่ีลักษณะอื่นๆ ยังเป็นแบบประเพณีเป็นเทคนิค เชิงช่างแบบศิลปะตะวันตกกับแบบประเพณี เช่น วัดบวรนิเวศวิหารโดยฝีมือขรัวอินโข่ง(วรรณิภา ณ สงขลา , 2533: 29) ความโดดเด่นของภาพที่วาดโดยขรัวอินโข่งคือการริเร่ิมใช้เทคนิคการวาดภาพหลักทัศนียวิทยา (Perspective) แบบตะวัน ตกท้องฟ้ามีมิติสมจริง รวมถึงการใช้สีอ่อนแก่มีแสงเงา ทาให้ภาพมีระยะใกล้ไกล ลึก ต้ืนดูเหมือนจริง (วิไลรัตน์ ยังรอด และธวัชชัย องค์วุฒิเวทย์, 2559: 25)
จิตรกรรมมีการเปลี่ยนแปลงจากจิตรกรรมแบบขนบนิยมมาสู่จิตรกรรมแบบสากลนิยม โดยมีอิทธิพลจาก การเขียนภาพแบบตะวันตกหล่ังไหลเข้ามา อันเป็นผลกระทบต่อจิตรกรรมแบบด้ังเดิม งานจิตรกรรมบางวัดละท้ิงรูปแบบ จากการระบายสีในลักษณะแบนๆ แสดงความสาคัญด้วยเส้นท่ีคิดอย่างประณีตบรรจง มาเป็นการระบายสีแบบกลมกลืน ตามธรรมชาติหรือความจริง แสดงบรรยายกาศและมีมิติชัดเจนขึ้น ท้ังในด้านการใช้สีสัน แสง-เงา (chiaroscuro) และ ทัศนียวิสัย (perspective) คือเปลี่ยนจากแนวการเขียนในลักษณะ “อุดมคติ” (Idealism) มาสู่ลักษณะความเป็นจริง (Realism) ตามทสี่ ายตามองเหน็ (สงวน รอดบญุ , 2526: 81) จติ รกรผทู้ รี่ เิ รมิ่ การเขยี นภาพลกั ษณะ 3 มติ ิ คอื พระอาจารยอ์ นิ หรือ ขรัว อินโข่ง ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นจิตรกรเอกในสมัยรัชกาลท่ี 4 ถือว่าเป็นผู้บุกเบิกเทคนิคการเขียนงานจิตรกรรม แบบใหม่และท่านสามารถเขียนได้ท้ังเทคนิคเชิงช่างแบบขนบนิยมและแบบสากลนิยม ดังปรากฏภาพจิตรกรรมฝาผนัง ในวัดบวรนิเวศวิหาร วัดบรมนิเวศ เป็นต้น และปรากฏเทคนิคเชิงช่างการเขียนตามแนวพระราชประสงค์ของพระบาท สมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั และแนวทางการเขยี นภาพแนวขรวั อนิ โขง่ ในภาคใต้ดงั ปรากฏการเขยี นภาพจติ รกรรมฝาผนงั ในพระอุโบสถวัดโพธิ์ปฐมาวาส จังหวัดสงขลา
สมัยรัชกําลท่ี 5 เทคนิคเชิงช่างโดยประยุกต์เอาความรู้ช่างตะวันตกโดยอิงความสมจริงผสมผสานกับการพัฒนา และคล่ีคลายจากจิตรกรรมในอดีตท่ีมีลักษณะเชิงช่างแบบอุดมคติ เช่น วัดราชประดิษฐ์ อยู่ในช่วงต่อเน่ืองของกระแส วัฒนธรรมตะวันตกท่ีเข้ามาในช่วงรัชกาลท่ี 4
วัดราชประดิษฐ์ มีเทคนิคการวาดภาพท่ีอิงความสมจริง คือ ลักษณะการพัฒนาจากเร่ืองราวปรัมปราคติ โดยใช้ เทคนิคการวาดภาพแนวสมจริงตามกระแสวัฒนธรรมตะวันตกท่ีแพร่หลายในช่วงรัชกาลท่ี 5 จะแสดงออกท้ังอากัปกิริยา ท่าทางสรีระของภาพบรรดาเทวดา – นางฟ้า และการเขียนก้อนเมฆท้องฟ้าให้มีระยะใกล้ – ไกล (สันติ เล็กสุขุม, 2548: 198 -199) ดังปรากฏในภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังวัดพัฒนาราม สุราษฏร์ธานี (ภาพที่ 1-17) ที่เขียนภาพตามเทคนิค เชิงช่างท่ีเขียนข้ึนในของช่างหลวงท่ีปรากฏในวัดพระราชประดิษฐ์
  29
          





























































































   37   38   39   40   41