Page 30 - การวิจัยทางศิลปะ

22
การวิจัยทางศิลปะ บทที่ 2
หลักการวิจัยทางศิลปะ
หลักการวิจัยทางศิลปะ นอกจากมีกระบวนการที่น่าสนใจและสาคัญแล้ว ส่วนอื่น ๆ ก็ถือว่า เป็นส่วนประกอบที่มีความสาคัญในการค้นหาคาตอบของการวิจัยสร้างสรรค์ศิลปะ ซึ่งเริ่มต้นด้วย การตั้งประเด็นปัญหา ความสาคัญ นามาใช้ในการตั้งชื่อหัวข้อการวิจัย ต่อด้วยการเขียนวัตถุประสงค์ ขอบเขตของการวิจัย การตั้งสมมติฐาน การดาเนินการวิจัย การรวบรวมและการวิเคราะห์ข้อมูล กระบวนการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน และการสรปุ ผลการวจิ ยั ซงึ่ ลว้ นแลว้ จะมคี วามสมั พนั ธเ์ ชอื่ มโยงกนั ตาม กระบวนการ โดยจะอธิบายต่อไปนี้
 2.1 การเขียนวัตถุประสงค์อย่างไรให้ง่ายต่อการค้นหาคาตอบ การกาหนดวัตถุประสงค์การวิจัย หรือจุดมุ่งหมายของการวิจัยมีความสาคัญมาก ถ้าผู้วิจัย
กาหนดวัตถุประสงค์ไม่ชัดเจนจะทาให้ไม่สามารถทาการวิจัยได้ หรืออาจจะทาให้ได้ผลการวิจัย ไม่สอดคล้องกับปัญหาความสาคัญและมีคุณค่า รวมถึงประเด็นที่น่าสนใจของการวิจัย ในทางกลับกัน การเขียนวัตถุประสงค์การวิจัยที่ดีจะช่วยระบุรูปแบบในการค้นหาคาตอบของปัญหา (Methods of Inquiry) และความสาคัญในเรื่องที่น่าสนใจทาให้ผู้วิจัยค้นหาคาตอบได้ง่ายขึ้น
ก่อนอื่นควรทาความเข้าใจว่า การกาหนดวัตถุประสงค์จะต้องเป็นการเขียนจากประเด็น ปัญหาและความสาคัญของการวิจัย โดยเป็นการนาเอาแนวความคิดของประเด็นปัญหาวิจัยมาขยาย รายละเอียด โดยเรียบเรียงให้เป็นภาษาเขียนที่ชัดเจน เข้าใจง่าย สอดคล้องกับชื่อเรื่องของการวิจัย เพื่อเป็นแนวทางให้ทราบว่า จะศึกษาอะไร วิเคราะห์ ตีความข้อมูล สร้างสรรค์ผลงาน และการสรุป ผลการวิจัยอย่างไร โดยควรจะเขียนเป็นข้อๆ เพื่อความชัดเจน ซึ่งปกติแล้วมักจะขึ้นต้นว่า “เพื่อ” แล้วตามด้วยข้อความที่บ่งบอกถึง “กิจกรรม” ที่ผู้วิจัยต้องทา เช่น คาว่าศึกษา สารวจ เปรียบเทียบ วิเคราะห์ ตีความ สร้างสรรค์ ออกแบบ หาความสัมพันธ์ ประมวลผลที่เกิดขึ้น แสดงความรู้สึก เป็นต้น
การเขียนวัตถุประสงค์การวิจัยทางศิลปะ
1. ต้องสอดคล้องกับชื่อเรื่อง ความเป็นมา และความสาคัญของปัญหา
2. ต้องเขียนประเด็นของปัญหาและความสาคัญให้ชัดเจน ครอบคลุมสิ่งที่ต้องการศึกษา ระบุวิธีการศึกษา ตัวแปรและกลุ่มเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่เขียนต้องสามารถศึกษาได้ กระทาได้ หรือเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้
3. ต้องเขียนวัตถุประสงค์ในลักษณะที่สั้น กะทัดรัด ใช้ภาษาที่ง่าย ได้ใจความ และชัดเจน