Page 78 - หนังสือCA WORLD โลกนิเทศศาสตร์ จบแล้วทำอะไร?
P. 78
Q : อะไรเป็นจุดเริ่มต้นของกำรท ำสถำบันภำษำกับวัฒนธรรมอังกฤษ Q : ทีชเชอร์ประสบควำมส ำเร็จในอำชีพนี้ได้อย่ำงไร
คิงส์ตันเฮำส์ A : เราต้องวิ่งหางานครับ พยายามหาข้อบกพร่อง
A : ได้ลองไปสอนภาษาอังกฤษลูกสาวเพื่อนคุณพ่อ พอเราสอนไปสอน ของตัวเอง และพยายามเติมเต็ม เราต้องสนใจด้วยว่า
มา เรารู้สึกชอบและสนุกอะ เหมือนกับเราได้ถ่ายทอดสิ่งที่เรารู้ เพราะเมื่อก่อน นักเรียน นักศึกษา หรือลูกค้าเขาต้องการอะไร พอ
พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เหมือนกัน พอเราได้ถ่ายว่าท ายังไงเราถึงพูดได้ รู้สึกว่า หลังจากที่เราท าให้เราสมบูรณ์แบบไปเรื่อยๆ เราจะเกิด
เป็นความสุขที่เราได้ถ่ายทอด พอเราชอบการถ่ายทอด ชอบการสื่อสาร เราเลย ความเคยชินแล้ว หลังจากนั้นเราจะแสดงศักยภาพของเรา
รู้สึกว่าน่าอยากท าด้านนี้ เราเลยไปสมัครเป็นครู อาจารย์ ต่อครับ จากนั้นก็รับ ออกมาได้เต็มที่ในทุกงานครับ พอคนอื่นเขาเห็นว่าเราท า
งานสอนไปเรื่อยๆ และก็ท าโครงการการสอน เราเลยคิดว่าไหนๆเราก็เรียน ได้ เขาก็อยากให้มีแบบนี้ในงานของเขาบ้าง และที่ทีชเชอร์
บริหารธุรกิจมาด้วย ก็เลยท าเป็นธุรกิจ เกิดเป็นธุรกิจทางด้านการสอน มักจะใช้เสมอ “ไม่เกี่ยงงาน” ถ้ามีงานที่สามารถท าได้ทีช
ภาษาอังกฤษ เชอร์ท าหมด นั้นเป็นสิ่งที่เราจะได้แสดงศักยภาพให้คนอื่น
Q : หลักในกำรท ำงำน เห็น ซึ่งผลตอบรับดีมาก บางคนที่เห็นเราที่งานต่างๆ เขาก็
A : หลายๆ คนมักจะเห็นว่าเราท าได้ดีบนเวที เราจะไม่บอกว่าเราท าได้ จ้างมาสอน ส่งลูกมาเรียน ซึ่งจริงๆทีชเชอร์ก็ไม่ได้หวัง แต่
เราท าและเราผ่านตรงนั้นมาได้ก็ถือว่าเราผ่านแล้ว แต่ที่จริงไม่มีใครเห็นว่า เรา ก็ไม่ได้ไม่คาดหวัง แต่จะพูดง่ายๆ ก็คืออยากให้ทุกคนนึก
ค้นคว้าข้อมูลหนักแค่ไหน คือก่อนที่เราจะไปงานพิธีกร คืนนี้เราต้องหาข้อมูล ถึงทีชเชอร์อ๊อดในรูปแบบของการพูดภาษาอังกฤษ การ
ไว้แล้ว ขั้นต้นเราต้องหาข้อมูลไว้ในเอกสารของเราก่อนว่าเราต้องไปพูด เป็นพิธีกร การสอน การอบรม เมื่อเราอยากให้คนอื่นรู้จัก
เกี่ยวกับอะไร คือสมัยก่อนเนี่ย ทีชเชอร์ก็ท าตามแพทเทิร์นทั้งหมด พอเราได้ เราเป็นแบบไหน เราท าแบบนั้นบ่อยๆแล้วงานมันก็จะเข้า
ท าบ่อยขึ้นประสบการณ์ท าให้เรารู้ว่าเราไม่ต้องเตรียมทุกค าพูด สิ่งที่เราต้องรู้ มาเรื่อยๆ เขาก็จะรู้ว่า นึกถึงภาษาอังกฤษนึกถึงทีชเชอร์
คือต้องมีข้อมูลอยู่ในหัวให้ได้มากที่สุด เพื่อเอาไว้ส าหรับกิจกรรมที่เราจะต้อง อ๊อด
ท าขั้นเวลา เราต้องพูดอะไรก็ได้เพื่อโน้มน้าวให้ผู้ฟังเกิดความผ่อนคลาย รู้สึก
Q : อยำกให้ฝำกถึงน้องๆ
เวทีมันไม่ว่าง ซึ่งข้อมูลทั้งหมดที่เราหามามันก็ได้ใช้จริงๆ เพราะฉนั้นถ้าเรา A: ถ้าใครอยากจะติดอาวุธทางด้านการพูด การท า
เตรียมตัวดีด้วย และทีชเชอร์จะฝึกพูดก่อนที่จะไปถึงหน้างาน คือพูดซ ้าไปซ ้า สื่อสารมีเดีย การท าทางด้านออแกไนเซอร์ แต่สิ่งหนึ่งที่ทุก
มา โดยเฉพาะชื่อของคนจัดงานหรือประธาน ซึ่งจะพูดไม่ต ่ากว่า 50 ครั้ง ว่า คนต้องมีคือ เรื่องของการพูด ถ้าคุณพูดได้ดี ถ้าคุณมี
ประธานงานนี้คือใคร พอเราฝึกพูดบ่อยๆ มันจะท าให้เราชินกับการพูดชื่อนั้น บุคลิกภาพที่ดี ท าการประชาสัมพัน์ตัวเองได้ คุณก็จะ
ซึ่งถ้าเราเตรียมตัวมาดี ก็จะเป็นประโยชน์ต่อเราแน่นอน สามารถมีรายได้ เพราะถ้าคุณสื่อสารเป็น ไม่ว่าคุณท า
Q : อำชีพธุรกิจ อำจำรย์ และพิธีกร ทีชเชอร์ต้องปฏิบัติตัวอย่ำงไรถึง อาชีพอะไร ก็จะไม่มีทางขาดทุน เพราะฉนั้น ถ้าใครสนใจ
จะสำมำรถท ำให้คนอื่นเห็นว่ำงำนเรำมีคุณภำพ
ในสายงานนิเทศศาสตร์จริงๆ มาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน
A : เราก็ต้องเตรียมพร้อมของเราอยู่เสมอครับ ไม่ว่าเราจะได้รับหน้าที่
อะไร เราก้ต้องท ามันออกมาให้ดีที่สุด มีรุ่นพี่นิเทศศาสตร์คนหนึ่งบอกทีชเชอร์ “walk your talk คือ คุณอยากจะแสดงว่าคุณเป็น
ว่า ไม่ว่าจะเป็นงานเล็ก งานใหญ่ หรืองานฟรี ต้องท าทุกอย่างออกมาให้เท่า ยังไงก็ตาม คุณต้องเป็นคนแบบนั้นให้ได้ด้วย เขาจะ
มองเห็นคุณในลักษณะที่เป็นแบบนั้น แล้วคุณก็ต้อง
เทียมกันหมด คือให้คุณภาพมันเท่ากัน แล้วเขาจะรู้เลยว่าคุณเป็นคนมี
เป็นแบบนั้นเสมอ ถึงแม้เพราะว่าบางที่คุณจะมี
คุณภาพ ห้ามลดคุณภาพตัวเองเด็ดขาด หลังจากนั้นเขาจะรู้เลยว่า เขาจะต้อง
ผิดพลาดบ้าง แต่ถ้าคุณแก้ไขข้อผิดพลาดนั้น ให้ตัว
จ่ายคุณให้เท่ากับคุณภาพของคุณ เพราะถ้าเขาอยากได้งานคุณภาพเขาต้อง
คุณเองสมบูรณ์อยู่เสมอ”
มาหาคุณ
75