Page 145 - ลูกเสือ กศน. สค32035
P. 145

132

เรือ่ งที่ 4 เงือ่ นเชอื กและการผกู แนน
       4.1 ความหมายของเงอ่ื นเชอื กและการผกู แนน
           เงื่อนเชือก หมายถึง การนําเชือกมาผูกกันเปนเง่ือน เปนปม สําหรับตอเชือก

เขา ดว ยกัน หรือทาํ เปน บว ง สาํ หรับคลองหรือสวมกับเสา หรือใชผูกกับวัตถุ สําหรับผูกใหแนน
ใชรงั้ ใหต งึ ไมหลดุ งาย แตสามารถแกป มไดง าย

       4.2 ความสําคญั ของเง่ือนเชือกและการผกู แนน
           กิจกรรมลูกเสือ เปนกิจกรรมหน่ึงที่ตองการใหลูกเสือรูจักใชวัสดุท่ีมีอยู

ตามธรรมชาติ เพอ่ื การดาํ รงความเปนอยอู ยางอสิ ระและพึง่ พาตนเองใหมากที่สดุ
       4.3 การผูกเงื่อนเชือกและการผูกแนน เปนศาสตรและศิลปอยางหนึ่งที่ลูกเสือ

จําเปนตองเรียนรูเม่ือเขารวมกิจกรรมในการอยูคายพักแรม การสรางฐานกิจกรรมผจญภัย
การตัง้ คายพกั แรม รวมทั้งการใชงานเงื่อนในการชวยผเู จ็บปว ยได

           การเรียนรูเ รอ่ื งเง่อื นเชือกและการผกู แนน จะตอ งจดจํา ปฏบิ ตั ไิ ดห าก ผดิ พลาดไป
หลุดหรือขาดก็จะเปนอันตรายตอชีวิต และสิ่งของเสียหาย ขอแนะนําใหทุกคนท่ีตองการ
นําไปใชตอ งหม่นั ฝกฝน ศกึ ษาหาความรู ผกู เชือกใหเปน นําไปใชงานใหไดถึงคราวจําเปนจะไดใชให
เกิดประโยชน วธิ ีการผกู เงือ่ นเชอื กแบงออกเปนลักษณะการใชง านได 3 หมวด 10 เงอื่ น ดังน้ี

           1. หมวดตอเชอื ก สําหรับการตอเชอื กเพือ่ ตอ งการใหค วามยาวของเชือกเพ่ิมข้ึน
แตเนื่องจากเชือกในการกูภัยน้ันมีลักษณะและขนาดที่แตกตางกัน จึงจําเปนตองมีวิธีการผูก
เงอ่ื นทีแ่ ตกตางกนั จาํ นวน 3 เงื่อน ดังนี้

              1.1 เง่ือนพิรอด (Reef Knot หรอื Square Knot)
              1.2 เงอ่ื นขดั สมาธิ (Sheet Bend)
              1.3 เง่อื นประมง (Fisherman’s Knot)
           2. หมวดผูกแนนฉุดลาก ร้ัง สําหรับการผูกวัสดุที่ตองการจะเคล่ือนยายหรือ
ยึดตรึงอยูกับท่ี แตเน่ืองจากวัสดุที่ตองการจะผูกน้ันมีลักษณะรูปทรงและขนาดท่ีแตกตางกัน
จึงจาํ เปนตองมีวธิ กี ารผูกเง่อื นที่แตกตางกัน จํานวน 3 เงื่อน ดงั น้ี
              2.1 เงอ่ื นผูกรน (Sheep Shank)
              2.2 เงอ่ื นตะกรุดเบด็ (Clove Hitch)
              2.3 เงอ่ื นผกู ซงุ (Timber Hitch)
           3. หมวดชวยชีวิต สําหรับการชวยเหลือผูประสบภัยในกรณีตาง ๆ ขึ้นอยูกับ
สถานทแ่ี ละสถานการณ จึงตองมีวธิ ีการผูกเงอ่ื นใหเหมาะสมกบั งานจํานวน 4 เงื่อน ดังน้ี
              3.1 เงอ่ื นเกาอ้ี (Fireman’s Chair Knot)
              3.2 เงือ่ นบวงสายธนู (Bowline Bend)
              3.3 เงื่อนขโมย (Knot Steal)
              3.4 เงอ่ื นบนั ไดปม (Ladder knot)
   140   141   142   143   144   145   146   147   148   149   150