Page 64 - ตามรอยพระศาสดา
P. 64
63
อินทรีย์ของท่านผ่องใสยิ่งนัก ผิวพรรณของท่านบริสุทธิ์ผุดผ่อง อาวุโส
ท่านบวชอุทิศใคร ใครเป็นศาสดาของท่าน หรือท่านพอใจในธรรมของใคร
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
“เราเป็นผู้ครอบง�าธรรมทั้งปวง รู้ธรรมทั้งปวง อันตัณหาและทิฏฐิ
ไม่ฉาบทาแล้วในธรรมทั้งปวง เราละธรรมอันเป็นไปในภูมิสามได้หมด
พ้นแล้ว เพราะความสิ้นไปแห่งตัณหา เราตรัสรู้ธรรมอันยิ่งด้วยตนเอง
แล้ว จะถึงอ้างใครเล่า อาจารย์ของเราไม่มี คนเช่นเราก็ไม่มี บุคคลที่
เสมอเหมือนกับเราก็ไม่มีในโลก พร้อมทั้งเทวโลก เพราะเราเป็น
พระอรหันต์ในโลก เราเป็นศาสดาหาศาสดาอื่นยิ่งกว่าไม่ได้ เราผู้เดียวที่
เป็นพระสัมมาสัมพุทธะ เราเป็นผู้เย็นใจ เพราะดับกิเลสได้แล้ว เราจะไปยัง
เมืองในแคว้นกาสี เพื่อประกาศธรรมจักรให้เป็นไป เราจะบรรลืออมตเภรี
ในโลกอันมืด เพื่อให้สัตว์ได้ธรรมจักษุ”
อุปกาชีวกถามว่า ท่านผู้มีอายุ ท่านปฏิญาณว่า ท่านเป็นพระอรหันต์
ผู้ชนะไม่มีที่สุดฉะนั้นหรือ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ชนทั้งหลายผู้ถึงธรรมที่สิ้นตัณหา เช่นเรา
นี้แหละ ชื่อว่าเป็นผู้ชนะบาปธรรมทั้งหลายอันเราชนะแล้ว เหตุนี้แหละ
อุปกะ เราจึงชื่อว่าผู้ชนะ
อุปกาชีวกไม่เชื่อสั่นศีรษะเดินหลีกไป พระผู้มีพระภาคจึงเสด็จ
ด�าเนินต่อไป จนกระทั่งบรรลุถึงป่าอิสิปตนมฤคทายวันในเย็นวันนั้น ครั้งแรก
ปัญจวัคคีย์ไม่เชื่อว่า พระองค์ได้ตรัสรู้แล้ว เพราะเห็นว่าละการบ�าเพ็ญ
ทุกกรกิริยา เวียนมาเพื่อเป็นคนมักมาก จะตรัสรู้ได้อย่างไร จึงไม่ยินดีในการ
ต้อนรับเท่าใดนัก แต่ด้วยพระเมตตาที่แผ่ไปยังปัญจวัคคีย์ แล้วตรัสถามว่า
“พวกเธอจ�าได้หรือไม่ว่าถ้อยค�าเช่นนี้ เราได้เคยพูดมาในกาลก่อนหรือ”
ตามรอยพระศาสดา