Page 39 - คมอควบคมและการจดงานสายตรวจ_Neat
P. 39
36
3. กำรค้น
กฎหมายให้อ านาจเจ้าพนักงานต ารวจท าการตรวจค้นเพื่อพบและยึดสิ่งของซึ่งอาจจะใช้เป็น
พยานหลักฐานได้ หรือเพื่อพบและช่วยบุคคลที่ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังโดยมิชอบ หรือเพื่อพบบุคคลที่มีหมายให้
จับได้ทั่วไป การค้นแยกออกเป็น 2 ประเภท คือ การค้นตัวบุคคล และการค้นสถานที่
(1) กำรค้นตัวบุคคล แยกออกได้เป็น 3 กรณี คือ
ก. การค้นตัวบุคคลในสาธารณสถาน เป็นการค้นตัวบุคคลที่ยังมิได้ถูกจับซึ่งจะมีเหตุผลอย่าง
หนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้
- มีเหตุอันควรสงสัยว่า บุคคลนั้นมีสิ่งของในความครอบครองเพื่อจะใช้ในการกระท า
ผิด หรือ
- มีเหตุอันควรสงสัยว่า สิ่งของที่อยู่ในความครอบครองของบุคคลนั้นได้มาโดยการ
กระท าผิด หรือ
- มีเหตุอันควรสงสัยว่า สิ่งของที่อยู่ในความครอบครองของบุคคลนั้นมีไว้เป็น
ความผิด
การค้นตัวบุคคลในสาธารณสถาน มีใช้ในทางปฏิบัติมากเนื่องจากปัจจุบัน ทุกเวลาและสถานที่อาจมี
อาชญากรรมประเภทต่าง ๆ เกิดขึ้นได้ และเป้าหมายของคนร้ายก็ไม่จ ากัดว่า จะเป็นบุคคลหรือทรัพย์สิน
ประเภทใด การตรวจท้องที่ของต ารวจสายตรวจจึงมิใช่การกระท า เพียงแต่การตรวจผ่านไปตามสถานที่ต่าง ๆ
เพียงอย่างเดียว เมื่อประสบเหตุจึงเข้าระงับเหตุ หรือท าการปราบปรามจับกุม ซึ่งเป็นลักษณะของการปฏิบัติใน
เชิงรับเท่านั้น การป้องกันอาชญากรรมที่จะกระท าให้ได้ประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูง จะต้องด าเนิน
มาตรการในเชิงรุกด้วย ซึ่งได้แก่การตรวจค้นในลักษณะต่าง ๆ นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่สัญจรด้วยเท้าหรือ
ยานพาหนะ หากมีเหตุอันควรสงสัยดังกล่าว เจ้าพนักงานต ารวจสายตรวจควรเข้าท าการตรวจค้นทันที ซึ่งมี
บ่อยครั้งที่สายตรวจสามารถจับกุมผู้กระท าผิดได้โดยเริ่มต้นจากการตรวจค้น และถึงแม้ว่าการตรวจค้นจะไม่
พบสิ่งใด การปฏิบัติทั่วไปที่ประชาชนพบเห็น ย่อมก่อให้เกิดความอุ่นใจแก่สุจริตชนและเป็นการปรามทุจริตชน
ไปในเวลาเดียวกัน
ข. การค้นตัวบุคคลในที่รโหฐาน ในขณะที่ท าการตรวจค้นในที่รโหฐาน ถ้ามีเหตุอันควรสงสัย
ว่าบุคคลซึ่งอยู่ในที่ซึ่งค้นหรือจะถูกค้น ได้เอาสิ่งของที่ต้องการพบซุกซ่อนในร่างกาย เจ้าพนักงานผู้ค้นมีอ านาจ
ค้นตัวผู้นั้นได้
ค. การค้นตัวผู้ถูกจับ เจ้าพนักงานผู้จับหรือรับตัวผู้จับกุมไว้ มีอ านาจค้นตัวผู้ต้องหาและยึด
สิ่งของต่าง ๆ ที่อาจจะเป็นหลักฐานได้