Page 42 - aa
P. 42

29











          4.    แบบในการท าสัญญา  ในเรื่องแบบหรือวิธีการในการท านิติกรรม โดยทั่วไปสัญญา


        ที่ท าบางครั้งก็ไม่จ าเป็นต้องมีแบบก็ได้ แต่สัญญาบางสัญญา กฎหมายก าหนดวิธีการหรือ

        แบบในการปฏิบัติไว้เฉพาะ เช่น สัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ สัญญาที่กฎหมายก าหนด


        ต้องท าตามแบบ ในการท าสัญญาต้องท าตามแบบด้วย เพราะถ้าไม่ปฏิบัติตามก็จะมีผลให้

        สัญญานั้นไม่สมบูรณ์เป็นโมฆะ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 152


          5.    สัญญาต้องมีสิ่งตอบแทนกันในการสัญญา หากไม่มีการตอบแทนถือว่าไม่ใช่สัญญา




             กำรก่อให้เกิดสัญญำ




                สัญญาเกิดขึ้นได้ด้วยการแสดงเจตนาของบุคคล โดยคู่กรณีฝ่ายหนึ่งแสดงเจตนา

        เข้าท านิติกรรมกับคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งเรียกว่า ค าเสนอ เมื่อคู่กรณีฝ่ายที่ได้รับค าเสนอแสดง

        เจตนาตอบเรียกว่า ค าสนอง ถ้าข้อความที่แสดงไว้ในค าสนองตรงกันกับค าเสนอ สัญญา


        เกิดขึ้น แต่ก่อนเกิดสัญญาการท าให้เกิด ค าเสนอและค าสนอง มีหลักการ ดังนี้

          1.    ค ำเสนอ



        เป็นการแสดงเจตนาที่มีไปยังผู้รับการแสดงเจตนาซึ่งจะต้องเป็นข้อความที่ชัดเจนและ

        แน่นอนและมีความมุ่งหมายว่าเมื่อมีค าสนองแล้วสัญญาจะเกิดขึ้น


                1.1ค าเสนอเฉพาะหน้า


        1.ค าเสนอที่แสดงต่อบุคคลผู้อยู่เฉพาะหน้า หมายถึง ค าเสนอที่แสดงออกไปท าให้ผู้รับค า

        เสนอสามารถทราบเจตนานั้นได้ในทันที ไม่จ าเป็นที่ผู้รับค าเสนอจะต้องอยู่ในสถานที่

        เดียวกัน หมายความว่า เป็นค าเสนอที่ผู้รับสามารถทราบข้อความได้ทันทีไม่ว่าจะอยู่ต่อ

        หน้าอย่างแท้จริง หรืออาจเสนอผ่านสื่อต่างๆ เช่น โทรศัพท์ หรือ คอมพิวเตอร์
   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47