Page 18 - aa
P. 18
5
2.สำบสูญ ศึกษามาแล้วว่าเมื่อศาลสั่งให้บุคคลใดเป็นคนสาบสูญจะมีผลให้แก่
บุคคลนั้นถึงแก่ความตายตามข้อสันนิษฐานของกฎหมายหรือพูดว่าตายโดยกฎหมาย แต่
ก่อนศาลจะมีค าสั่งให้เป็นคนสาบสูญ จะต้องเป็นขั้นตอนตามกฎหมายก าหนดไว้ กล่าวคือ
บุคคลที่ไปจากภูมิล าเนาหรือถิ่นที่อยู่โดยสารยังมิได้สั่ง ผู้ไม่อยู่ที่ศาลมีค าสั่งให้เป็นคน
สาบสูญแล้ว กฎหมายให้สันนิษฐานว่าถึงแก่ความตาย เป็นกรณีถึงแก่ความตายโดยผลของ
กฎหมาย หลักเกณฑ์ที่จะขอให้บุคคลใดเป็นคนสาบสูญได้นั้นต้องดูตามมาตรา 61 ดังนี้
1. ไปเสียจากภูมิล าเนาหรือถิ่นที่อยู่
2. ไม่มีใครรู้แน่ว่าบุคคลนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
3. เป็นเวลา 5 ปี (เป็นการขอในกรณีธรรมดา)
การไปจากภูมิล าเนาหรือถิ่นที่อยู่ โดยไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร
หมายความว่า บุคคลนั้นหายไปจากบ้านเฉย ๆ เช่น บอกว่าจะไปท างานที่ต่างจังหวัด แล้ว
ไม่กลับมาอีกเลย หรือ หนีออกจากบ้านไปเฉย ๆ แล้วไม่กลับมาอีกเลย และ ไม่มีใครรู้แน่
ว่าบุคคลนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ คือ ไม่มีใครทราบข่าวคราว ไม่เคยติดต่อญาติเลย ไม่มีใคร
พบเห็นอีกเลย และ การหายไปนั้นได้หายไปเป็นเวลา 5 ปี ผู้มีส่วนได้เสีย หรือพนักงาน
อัยการสามารถยื่นค าร้องขอต่อศาลขอให้ศาลมีค าสั่งว่าบุคคลนั้นเป็นคนสาบสูญได้ ส่วน
การขอในกรณีพิเศษนั้น คือหากมีเหตุตาม (1) – (3) ระยะเวลา 5 ปีจะลดเหลือเพียง 2 ปี
ผู้มีสิทธิร้องขอคือผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงานอัยการเหมือนกรณีการยื่นขอกรณีธรรมดา
(1) นับแต่วันที่การรบหรือสงครามสิ้นสุดลง ถ้าบุคคลนั้นอยู่ในการรบหรือสงคราม
และ หายไปในการรบหรือสงครามดังกล่าว เช่น เอเป็นทหารซึ่งประเทศไทยส่งไปร่วมรบที่
ประเทศติมอร์ ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2555 การรบสิ้นสุดในวันที่ 25 ธันวาคม 2555