Page 259 - aa
P. 259

246









          1.    ผู้รับประกันภัยคือผู้ที่จัดตั้งเป็นรูปบริษัทจ ากัดหรือบริษัทจ ากัดมหาชนโดยมี

        วัตถุประสงค์เพื่อรับประกันภัยอาจเป็นการรับประกันวินาศภัยหรือประกันชีวิตก็ได้โดยผู้รับ

        ประกันภัยมีหน้าที่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือใช้เงินจ านวนหนึ่งให้แก่ผู้เอาประกันภัย

        หรือผู้รับผลประโยชน์เมื่อเกิดวินาศภัยตามสัญญาประกันวินาศภัยหรือเป็นไปตามเหตุ

        สัญญาประกันชีวิตอาศัยเหตุการณ์ทรงชีพหรือการมรณะของผู้ประกันภัย


          2.    ผู้เอาประกันภัยคือบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลเป็นคู่สัญญาเข้าท าสัญญา

        ประกันภัยกับผู้รับประกันภัยโดยมีหน้าที่ต้องช าระเบี้ยประกันภัยซึ่งเป็นเงินให้แก่ผู้รับ

        ประกันภัย

          3.    ผู้รับประโยชน์คือบุคคลผู้คนจะได้รับค่าสินไหมทดแทนหรือรับจ านวนเงินที่ใช้ให้

        ผู้รับประโยชน์จึงเป็นผู้ได้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันนั่นเองถ้าเป็นสัญญาวินาศภัยผู้รับ

        ประโยชน์คือผู้ที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเมื่อเกิดวินาศภัยขึ้นตามสัญญาและในสัญญา

        ประกันชีวิตผู้รับประโยชน์ก็คือผู้รับจะได้เงินโดยอาศัยการทรงชีพหรือมรณะของผู้เอา

        ประกันภัยตามสัญญากล่าวคือเมื่อครบสัญญาแล้วผู้เอาประกันภัยชีวิตหรือมีชีวิตอยู่ผู้รับ

        ผลประโยชน์ก็คือผู้เอาประกันชีวิตนั่นเองแต่ถ้าผู้เอาประกันภัยตายหรือมรณภาพผู้รับ

        ประโยชน์ก็คือบุคคลผู้มีชื่อระบุไว้ในสัญญาเป็นผู้รับตามสัญญา

                ลักษณะของสัญญำประกันภัย



                ลักษณะของสัญญาประกันภัย มีลักษณะดังต่อไปนี้

          1.    เป็นสัญญาต่างตอบแทน เนื่องจากสัญญาประกันภัยเป็นสัญญาที่คู่สัญญาต่างมี

        หน้าที่จะต้อง ตอบแทนซึ่งกันและกัน โดยคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งคือ ผู้เอาประกันภัย มีหนี้ต้อง

        ช าระเบี้ยประกันภัยให้กับ รับประกันภัย และมีสิทธิที่จะได้รับช าระหนี้จากผู้รับประกันภัย

        ได้แก่ เงินค่าสินไหมทดแทน ส่วนผู้รับ ประกันภัยจะได้รับช าระหนี้คือเบี้ยประกันภัย และมี

        หน้าที่จะต้องจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนเช่นเดียวกัน
   254   255   256   257   258   259   260   261   262   263   264