Page 110 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 110
นาเดี้ยนหรือชาวฝรั่ง หลวงพ่อไปให้เขา ให้อะไรบ้าง ให้รู้จักสวดมนต์ ให้รู้จักนั่งสมาธิ ให้รู้จักเดิน
จงกรม และรู้จักใส่บาตร รู้จักทอดกฐิน รู้จักวันสงกรานต์ รู้จักประเพณีบวชนาค หลวงพ่อให้หลาย
อย่าง แล้วก็สอนให้ฝรั่งตีกลองตีฆ้องด้วย ตุ๊บต่อง ๆ ตุ๊บตึง ๆ ตีผิดตีถูกคนก็หัวเราะกัน มันมีกลอง
ยาวแล้วก็มีฉิ่งมีฉาบ เวลาแห่กฐินก็จะมีการตีกลอง คนไทยก็ไม่มี ก็ให้ชาวแคนาเดี้ยนนั่นละตีกลอง
และก็ตีฉาบ ตีฉิ่ง แห่กองกฐิน ช่วงสงกรานต์ก็มีแห่นางนพมาศ หลวงพ่อไปสอนให้เขาได้เรียนรู้ว่า
วัฒนธรรมไทยเขาทำกันอย่างนี้ แล้วก็ทำบุญใส่บาตรทำอย่างนี้ แล้วก็กรวดน้ำอุทิศบุญกุศลทำ
อย่างนี้ ฝรั่งนี่ โอ้โฮ มีสิ่งดี ๆ อยู่ในพุทธศาสนามากมาย หลายคนก็อยากจะเปลี่ยนเป็นชาวพุทธ
หลวงพ่อบอกว่า “ไม่ได้ ๆ คุณนับถืออย่างไรก็นับถืออย่างนั้น ไม่ต้องเปลี่ยนศาสนา เปลี่ยนใจของ
คุณดีกว่า” เปลี่ยนใจของคุณ เปลี่ยนยังไง เปลี่ยนมาสวดมนต์ เปลี่ยนมาเดินจงกรม เปลี่ยนมานั่ง
สมาธิ แล้วก็ชักชวนกันทำความดีให้มาก ๆ เรียกว่าสร้างอริยทรัพย์ ถ้าหากว่าเราทำได้อย่างนี้ นั่น
ละคือความดี ไม่ต้องเปลี่ยนศาสนา ทุกคนก็มีศาสนาของตัวเองก็ไม่เป็นไรให้นับถือไว้ แต่มาสวด
มนต์มาเดินจงกรมมานั่งสมาธิ อันนี้มาสร้างอริยทรัพย์พิเศษ หลวงพ่อมาที่นี่หลวงพ่อไม่ต้องการ
อะไร
ชาวแคนาเดี้ยนเกิดความซาบซึ้งอย่างมาก พูดว่า หลวงพ่อครับ ผมได้มาเดินธุดงค์ที่ดอยอิน
ทนนท์กับหลวงพ่อแล้ว ผมเห็นคนไทย โอ้ สี่ห้าหกพันเป็นหมื่นคนก็มี ซาบซึ้งใจมาก หลวงพ่อทำได้
อย่างไร ทำไมคนถึงมาเดินธุดงค์กับหลวงพ่อมากขนาดนี้ ผมเคยเห็นแค่ร้อยสองร้อย อันนี้เป็นหมื่น
โอ้โฮ อะเมซซิ่ง (Amazing) บางคนได้แสดงความรู้สึก น้ำมูกน้ำตามันไหลออกมา เกิดความซาบซึ้ง
เกิดความประทับใจ นี่หลวงพ่อไปให้เขาจริง ๆ เพราะฉะนั้น เขาก็เลยมาช่วยงานหลวงพ่อ เป็น
ี
์
อาจารยสอนสมาธิ เดี๋ยวนี้ขยายไปที่ประเทศอเมริกา แล้วก็ไปออสเตรเลย นี่คือผลงานหลวงพ่อ
ท่านไปอยู่ที่แคนาดานี่ ๒๐ กว่าปี เพราะฉะนั้น ผลงานอันยิ่งใหญ่นี้ฝากไว้ให้แก่พวกเราทั้งหลายได้
ิ
สานต่อ ถ้าเราเป็นศิษย์หลวงพ่อก็ต้องพากันสวดมนต์ พากันนั่งสมาธ หมั่นสรางอริยทรัพย์ให้แก่ตน
้
เดี๋ยวนี้ไวรัสโคโรน่าแพร่ระบาด ต่างคนต่างมาดูตัวเอง การดูตัวเองก็คือรักษาตัวเอง เวลาจะ
ไปข้างนอกถ้าไม่จำเป็นก็อย่าไปเลย ถ้าไปแล้วมันอาจจะไปมาติดเข้ามาถึงบ้าน เข้ามาบ้านแล้วถ้า
ไม่ล้างมือไม่ล้างหน้า มันจะติดครอบครัวของเรา ติดสามีติดภรรยาติดลูกติดพ่อติดแม่ โอ้ ลำบาก
กันใหญ่ เพราะฉะนั้น จำเป็นต้องใส่หน้ากาก การใส่หน้ากากมันก็ต้องมีพิถีพิถันด้วย บางคนใส่ผิดนี่
ใส่หลวม ๆ นี่ไม่ได้ เขาบอกว่าต้องใส่ให้รัด ๆ ใส่ให้แน่นเลย ถ้าหากว่าใส่แน่น ๆ เปอร์เซ็นต์เชื้อโรค
ที่จะเล็ดลอดเข้าสู่ร่างกายของเราก็น้อย แต่ถ้าใส่หลวม ๆ มันก็มีช่องไวรัสเข้าได้เขาว่าอย่างนั้น เขา
มีการวิจัยที่ประเทศญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว
๑๑๐