Page 14 - ไอแซก นิวตัน - ภูมินทร์ 035 อนันตญา 058 ฟิสิกส์ หมู่ 2 ปี 2
P. 14
ผลงำน 10
ต่อมำนิวตันมีข้อขัดแย้งกับไลบ์นิซในเรื่องที่ว่ำ ใครเป็นผู้คิดพัฒนำแคลคูลัสก่อนกัน นักประวัติศำสตร์ยุค
ใหม่เชื่อว่ำทั้งนิวตันและไลบ์นิซต่ำงคนต่ำงก็พัฒนำแคลคูลัสกณิกนันต์กันโดยอิสระ แม้ว่ำจะมีบันทึกที่แตกต่ำง
กันมำกมำย ดูเหมือนว่ำ นิวตันจะไม่เคยตีพิมพ์อะไรเกี่ยวกับแคลคูลัสเลยก่อนปี พ.ศ. 2236 และไม่ได้เขียน
บทควำมฉบับสมบูรณ์ในเรื่องนี้ตรำบจนปี พ.ศ. 2247 ขณะที่ไลบ์นิซเริ่มตีพิมพ์บทควำมฉบับเต็มเกี่ยวกับ
กระบวนวิธีคิดของเขำในปี พ.ศ. 2227 (บันทึกของไลบ์นิซและ "กระบวนวิธีดิฟเฟอเรนเชียล" เป็นที่ยอมรับ
น ำไปใช้โดยนักคณิตศำสตร์ในภำคพื้นยุโรป และต่อมำนักคณิตศำสตร์ชำวอังกฤษจึงค่อยรับไปใช้ในปี พ.ศ.
2363) แต่อย่ำงไรก็ดี แนวคิดนี้ไม่ได้ให้ข้อสังเกตในเนื้อหำของแคลคูลัส ซึ่งนักวิจำรณ์ทั้งในยุคของนิวตันและยุค
สมัยใหม่ต่ำงระบุว่ำ มีอยู่ในเล่มที่ 1 ของหนังสือชุด Principia ของนิวตัน (ตีพิมพ์ปี 2230) และในต้นฉบับ
ลำยมือเขียนที่มีมำก่อนหน้ำนี้ เช่น De motu corporum in gyrum ("กำรเคลื่อนที่ของวัตถุในวงโคจร") เมื่อปี 1684
Principia ไม่ได้เขียนในภำษำแคลคูลัสแบบที่เรำรู้จัก แต่มีกำรใช้แคลคูลัสกณิกนันต์ในรูปแบบเรขำคณิต ว่ำด้วย
จ ำนวนที่ถูกจ ำกัดด้วยสัดส่วนของจ ำนวนที่เล็กลงไปเรื่อยๆ นิวตันสำธิตวิธีกำรนี้เอำไว้ใน Principia โดยเรียกชื่อ
มันว่ำ กระบวนวิธีสัดส่วนแรกและสัดส่วนสุดท้ำย (method of first and last ratios) และอธิบำยไว้ว่ำเหตุใดเขำจึง
แสดงควำมหมำยของมันในรูปแบบเช่นนี้ โดยกล่ำวด้วยว่ำ "นี้คือกำรแสดงวิธีแบบเดียวกันกับกระบวนกำรของ
กำรแบ่งแยกไม่ได้อีกต่อไป"