Page 23 - หนังสือ One Day Trip เที่ยวตลาดพลู ดูประวัติศาสตร์ย่านเก่า - ศิวัชสินีกานต์
P. 23
บทที่ 5
ผมเข้าไปในอาคารหลังนั้นพร้อมกับเพื่อน ๆ ภายในอาคารน่าจะเป็นสถานที่ท า
ศาสนพิธีและถวายสังฆทาน เนื่องจากขณะนั้นมีผู้มาถวายสังฆทานพอดี ด้านในสุดตรงไปทาง
ทิศเหนือของอาคาร หรือมุมขวาของประตูทางเข้าอาคารเป็นห้องโถงที่ประดิษฐาน
‘พระพุทธรูปปางถวายพระเพลิง’ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางที่มีความพิเศษที่สุดและหาชมได้ยาก
“พระพุทธรูปปางถวายพระเพลิง” นี้เป็นปางพิเศษที่มีเรื่องเล่าจากพุทธประวัติ
ของพระพุทธเจ้าว่า ‘หลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน และได้มีการท าพิธีกรรม
ให้พระองค์แล้ว แต่พระสรีระของพระองค์ไม่ยอมติดไฟ เนื่องจากต้องการรอให้สาวกคนส าคัญ
คือ พระมหากัสสปะ เดินทางมาถึงเสียก่อน’ จากเรื่องเล่าดังกล่าวจึงมีการสร้างเป็น
พระพุทธรูปในลักษณะบรรทมหงาย พระเศียร(ศีรษะ) หนุนพระเขนย (หมอนหนุน) พระกร
(มือ) สองข้างแนบองค์ และหลับพระเนตร โดยมีพระมหากัสสปะนั่งพนมมืออยู่ที่พระบาท
(เท้า) ซึ่งอุ้ม เพื่อนของผมก็คิดเห็นเหมือนว่า“วิหารน้อยหรืออาคารหลังนี้อาจจะเปรียบเสมือน
กรุงราชคฤห์ที่พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน คล้องกับชื่อวัด ‘ราชคฤห์’ แน่ ๆ”
ผมเองก็เคยได้ยินเรื่องราวพระพุทธรูปปางนี้แต่ไม่เคยเห็นของจริงมาก่อน จนกระทั่ง
ได้มาเห็นเองกับตาในวันนี้ เป็นอะไรที่ผมและเพื่อน ๆ ประทับใจมากเพราะเป็นพระพุทธรูปที่
แปลก เก่าแก่และน่าสนใจมากครับ
หลังจากที่พวกเราชื่นชมพระพุทธรูปปางถวายพระเพลิงเสร็จแล้ว ก็เดินออกจาก
อาคารหลังนั้นมาชมสถานที่ต่างๆ ที่น่าสนใจในวัดต่อ ซึ่งจุดต่อไปที่เรียกว่า ‘ภูเขามอ’ นั้นก็ไม่
ไกลสักเท่าไหร่ครับ ห่างกันประมาณ 100 เมตรเห็นจะได้ ผมกับเพื่อน ๆ เดินเลียบก าแพงวัด
มาเรื่อย ๆ เพื่อหลบแดดกลางวันที่เริ่มร้อนขึ้น จนมองเห็นภูเขามอที่ตั้งเด่นเป็นสง่า อยู่ใกล้กับ
บริเวณด้านหน้าทางเข้าวัดอีกทางหนึ่ง
“ภูเขามอ” เป็นภูเขาจ าลองที่สร้างขึ้นด้วยหินจากทะเล เป็นศิลปะอิทธิพลจีนที่
สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 ภูเขามอในวัดนี้นับเป็นภูเขามอที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง บนเขามีมณฑป
ที่ภายในมีพระพุทธบาทจ าลอง
ดูประวัติศาสตร์ย่านเก่าฯ
21