Page 140 - การสำรวจภาพถ่าย Photogrammetry
P. 140
110
110
1.การรังวัดแบบสถิต (Static Survey) เปนวิธีพื้นฐานของการวัดระยะโดยใชคลื่นสงโดยใชเครื่องรับตั้งแต 2 เครื่อง ขึ้นไป เครื่องรับเครื่องหนึ่งนําไปวางอยู ณ จุดที่ทราบคาพิกัดเพื่อใชอางอิง สวนเครื่องที่เหลือวางไว ณ จุดที่ตองการหา ตําแหนงเพิ่มเติม โดยปกติจะตั้งเครื่องรับสัญญาณไวไมนอยกวา 45 นาที แตถาจะใหไดผลการรังวัดที่ดีควรจะรังวัดนาน 1-2 ชั่วโมงทั้งนี้เพื่อใหมีขอมูลของการวัดระยะเพียงพอทจี่ะประมวลผลหาจํานวนคลื่นเต็มรอบที่ไมสามารถวัดไดโดยหลักการแลว วิธีการนี้ใชหาตําแหนงสัมพัทธระหวางจุดสองจุดที่อยูหางกันเปนระยะทางยาวได แตการใชซอฟตแวรเชิงพาณิชยหรือ ซอฟตแวรของโรงงานผลิตเครื่องรับนั้น ระยะทางสูงสุดที่ใหความถูกตองไดตามขอกําหนดของเครื่องรับจะอยูประมาณ 20-30 กิโลเมตร เทานั้น
2.การรังวัดแบบสถิตชนิดเร็ว (Rapid Static Survey) มีวิธีการทํางานเหมือนกับการรังวัดแบบสถิตขางตน แต ตองการขอมูลนอยกวา เพื่อนํามาประมวลผลหาจํานวนคลื่นเต็มรอบ ในการหาตําแหนงของจุดที่อยูหางจากจุดอางอิงไมเกิน 5 กิโลเมตร จะใชเวลาในการเก็บขอมูลราว 10 - 20 นาที อัลกอริทึมที่ใชในการประมวลผลวิธีรังวัดสถิตอยางเร็วจะแตกตางจาก วิธีรังวัดแบบสถิตธรรมดาตามปกติจะใชไดสําหรับจุดที่อยูหางจากจุดอางอิงไมเกิน 15 กิโลเมตร
3.การรังวัดแบบจลน (Kinematic Survey) ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใหสามารถหาตําแหนงของจุดที่ตองการไดเร็วขึ้น คือจะ ใชเวลาในการรับขอมูล ณ จุดที่ตองการในเวลาไมถึงหนึ่งนาที แตวิธีการนี้ก็มีจุดดอยคือ มีวิธีการเริ่มงาน (Initialization) ผาน การรับสัญญาณเริ่มตนซึ่งจะใชเวลาประมาณ 5-10 นาที และ ในระหวางทํางานตองสามารถรับ ดาวเทียมอยางตอเนื่อง โดย จะเปนวิธีการทํางานเพื่อใหสามารถประมวลผลหาจํานวนคลื่นเต็มรอบได สิ่งที่ตองคํานึงถึง ณ ขณะทํางานคือ เครื่องรับจะตอง รับสัญญาณตอเนื่องจากดาวเทียมอยางนอย 4 ดวงตลอดเวลา แมกระทั่ง ในขณะที่กําลังเคลื่อนยายจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุด หนึ่ง ถาหากรับสัญญาณดาวเทียมไดนอยกวา 4 ดวงเมื่อใด จะตองทําขั้นตอนของวิธีการเริ่มงานใหมอีกครั้งหนึ่ง แลวจึงไป รังวัดที่จุดอื่นๆ ตอไปไดอีก ในการรังวัดแบบจลนนี้ เครื่องรับเครื่องหนึ่งจะถูกวางไวที่จุดอางอิงที่รูตําแหนงแลวตลอดเวลา เครื่องอื่น ๆ เมื่อทําขั้นตอนวิธีการเริ่มงานแลว จึงนําไปวางตามจุดที่ตองการหาตําแหนง
4.การรังวัดแบบจลนทันทีทันใด (Real-time Kinematic Survey: RTK) วิธีนี้รูจักกันในชื่อยอวา RTK เปนวิธีการ ทํางานรังวัดแบบจลนนั่นเอง แตแสดงผลลัพธคือ คาพิกัดตําแหนงไดทันทีในสนาม โดยเหตุที่การทํางานยังเปนการหาตําแหนง แบบสัมพัทธ หมายความวาขอมูลจากทั้งสองจุดตองนํามาประมวลผลรวมกัน ดังนั้น จึงตองใชคลื่นวิทยุในการรับสงขอมูล ระหวางกัน เนื่องจากจุดอางอิงเปนจุดรูตําแหนงอยูแลว ในการทํางานแบบ RTK นี้ จึงเปนการสงขอมูลที่รับสัญญาณดาวเทียม ไดไปยังจุดที่ตองการหาตําแหนงเครื่องรับ ที่จุดตองการหาตําแหนงจะรับขอมูลแลวนําไปประมวลผล แลวแสดงคาพิกัดไดอยาง รวดเร็วในทันที ระยะหางระหวางจุดที่ใชทํางานไดไมเกิน 15 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังขึ้นอยูกับกําลังของคลื่นวิทยุที่ใช ในการ รับสงขอมูลระหวางกัน
4.3.3 การรังวัดพิกัดภาคพื้นดินสําหรับการสํารวจภาพถาย (Ground Observation for Photogrammetry)
4.3.3.1 การรังวัดพิกัดภาคพื้นดินที่เหมาะสมสําหรับการสํารวจดวยภาพถายจากเครื่องบิน
การสํารวจดวยภาพถายจากเครื่องบินแตละครั้งนั้นจะครอบคลุมพื้นที่การสํารวจขนาดที่คอนขางใหญ การเลือกใช การรังวัดดวยระบบดาวเทียมนําหนพิภพ (GNSS) จึงเปนวิธีการที่เหมาะสม ซึ่งเทคนิคการรังวัดดวยระบบดาวเทียมนําหนพิภพ GNSS ที่นํามาใชสําหรับงานในลักษณะนี้มีทั้งวิธี Static, Rapid Static, Kinematic, และ RTK อยางไรก็ตาม การเลือกใชวิธี
การสำาํา รวจด้้วยภาพถ่่าย (Photogrammetry)