Page 82 - วารสาร 9 1_2560
P. 82

นิพนธ์ต้นฉบับ
               เกวลี เครือจักร, ธานัท นิตย์คาหาญ,
               วันทนีย์ ชวพงศ์


                  ผลการศึกษา                                สรุปและข้อเสนอแนะ

                        กลุ่มควบคุมจะมีเพศหญิงมากกว่าเพศ           การน าเอาหลักการของTrans-
                 ชาย ส่วนกลุ่มทดลองจะมีทั้งเพศชายและเพศ     theoretical  Model  (TTM) มาประยุกต์ใช้ใน

                 หญิงเกือบเท่ากัน ทั้งสองกลุ่มไม่มีส่วนใหญ่อยู่  การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการป้องกันและ
                  ในช่วงอายุระหว่าง 50 ถึง 69  ปี มีสถานภาพ  ควบคุมโรคไข้เลือดออกให้กับกลุ่มทดลองพบ
                 สมรส มีวุฒิการศึกษาสูงสุดที่ระดับประถมศึกษา   การเปลี่ยนแปลงในด้านเจตคติและการปฏิบัติ

                 และมีอาชีพหลัก คือ เป็นเกษตรกร สัดส่วนของ  ที่ดีขึ้นภายหลังการทดลองอย่างมีนัยส าคัญ
                  ครอบครัวที่เคยมีสมาชิกป่วยเป็นโรค         ทาง สถิติในขณะที่กลุ่มควบคุมจะไม่พบความ

                 ไข้เลือดออกของทั้งสองกลุ่มเท่ากัน คือ 1 ใน 4   แตกต่างของคะแนนเฉลี่ยทั้งสามด้าน
                 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่มส่วนใหญ่เคยร่วม       ในด้านเจตคติและด้านการปฏิบัติ ที่

                 รณรงค์การป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก    พบว่าเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นในกลุ่ม
                 ในชุมชนและเคยลงส ารวจและก าจัดลูกน้ าใน    ทดลองภายหลังได้รับแผนสุขศึกษา  5

                 บริเวณบ้านข้อมูลพื้นฐานของทั้งสองกลุ่มไม่มี  ขั้น สะท้อนให้เห็นว่าการประยุกต์ใช้หลักการ

                 ความแตกต่างกัน (p=.05) (ตารางที่2)         ของ Trans-theoretical  Model  (TTM)
                        ก่อนการทดลองพบว่า ผลการประเมิน      เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการป้องกันและ

                  ทั้งด้านความรู้ ด้านเจตคติ และด้านการปฏิบัติ  ควบคุมโรคไข้เลือดออกนั้นเกิดผลเป็นอย่างดี
                 ด้านความรู้ และด้านการปฏิบัติ                     และที่เกิดการเปลี่ยนแปลงควบ

                 ไม่มีความแตกต่างกันของทั้งสอกลุ่ม แต่พบว่า   ควบคู่กันทั้งด้าน เจตคติและด้านการปฏิบัติ
                 ด้านเจตคติมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญ  ไปพร้อมกันนั้นก็สอดคล้องตามหลักการที่ว่า
                 ที่ระดับ .05  โดยกลุ่มทดลองจะมีเจตคติน้อย  การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมจนน ามาสู่

                 กว่ากลุ่มควบคุม (ตารางที่ 3)               การปฏิบัตินั้นจะสัมพันธ์ทั้งทางตรงและ
                        หลังการทดลองพบว่าไม่มีความ          ทางอ้อมกับด้านความรู้และด้านทัศนคติที่
                                                                           9
                 แตกต่างกันของผลการประเมินทั้งด้านความรู้   ต้องเกิดขึ้นมาก่อน และการให้แผนสุขศึกษา

                 ด้านเจตคติและด้านการปฏิบัติทั้งสองกลุ่ม    แก่ชุมชนถือเป็นวิธีการส าคัญที่ชุมชนจะต้อง
                  (ตารางที่ 4)                              ได้รับข้อมูลเพื่อการตัดสินใจในการดูแล

                        จากผลการประเมินทั้งด้านความรู้      สุขภาพของตัวเองจนเกิดผลลัพธ์ในทาง
                 ด้านเจตคติ และด้านการปฏิบัติของกลุ่มควบคุม   ปฏิบัติ ซึ่งทางองค์การอนามัยโลกก็ได้ใช้เป็น

                 พบว่าไม่มีความแตกต่างกัน (ตารางที่ 5) จากผล  แนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพและส่งเสริม
                                                                                         10
                 การประเมินทั้งด้านความรู้ ด้านเจตคติ และด้าน  สุขภาพในระดับชุมชนอย่างต่อเนื่อง
                 การปฏิบัติ ของกลุ่มทดลองพบว่าในด้านเจตคติ

                 และด้านการปฏิบัติก่อนและหลังการทดลอง มี
                  ความแตกต่างกันในทางที่ดีขึ้นอย่างมีนัยส าคัญ


                  ทางสถิติที่ระดับ .01และ .05 ตามล าดับ
                 (ตารางที่ 6)

               82 >> เชียงรายเวชสาร :: CHIANGRAI MEDICAL JOURNAL
   77   78   79   80   81   82   83   84   85   86   87