Page 157 - เอกสารประกอบการสอนพื้นฐานการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
P. 157
156
สรุป
สาระส าคัญ
การเขียนโปรแกรมโครงสร้างแบบมีทางเลือก มีอยู่ 3 ลักษณะ ดังนี้
1) เงื่อนไขจริงหรือเท็จจึงกระท าอย่างใดอย่างหนึ่ง (if…) มีทางเลือกให้เพียงทางเดียว
สาระส าคัญ
เท่านั้น ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงจะท าค าสั่งตามที่ก าหนดหลัง if หากมีค าสั่งให้ท ามากกว่า 1 ค าสั่งจะต้อง
อยู่ภายในเครื่องหมาย { } ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จจะหลุดจากเงื่อนไข
2) เงื่อนไขจริงหรือเท็จต่างก็ต้องกระท า (if…else…) ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงจะท าค าสั่งตามที่
ก าหนดหลัง if หากมีค าสั่งให้ท ามากกว่า 1 ค าสั่งจะต้องอยู่ภายในเครื่องหมาย { } ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จ
ก็จะท าค าสั่งตามที่ก าหนดหลัง else หากมีค าสั่งให้ท ามากกว่า 1 ค าสั่งจะต้องอยู่ภายในเครื่องหมาย
{ }
3) เงื่อนไขที่มีให้เลือกมากกว่า 2 ทาง (if…else if…) ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงจะท าค าสั่ง
ตามที่ก าหนดหลัง if หากมีค าสั่งให้ท ามากกว่า 1 ค าสั่งจะต้องอยู่ภายในเครื่องหมาย { } ถ้าเงื่อนไข
เป็นเท็จจะท าการตรวจสอบเงื่อนไข if หลัง else อีก โดยจะท าการตรวจสอบไปเรื่อย ๆจนกว่าจะ
ครบทุกเงื่อนไข
นอกจากการใช้ (if…else if…) ยังสามารถใช้ค าสั่ง switch…case แทนได้อีก ส าหรับการ
ตรวจสอบเงื่อนไขตัวแปรที่เป็นจ านวนเต็มหรืออักษรตัวเดียวเท่านั้น
การเขียนโปรแกรมโครงสร้างแบบท าซ้ า มีอยู่ 3 ลักษณะ ดังนี้
1) การท าซ้ า แบบ (for…) เป็นการท าซ้ าที่รู้จ านวนรอบแน่นอน
2) การท าซ้ า แบบ (while) เป็นการท าซ้ าโดยจะท าการตรวจสอบเงื่อนไขก่อน ถ้าผลการ
ตรวจสอบเงื่อนไขเป็นจริง ก็จะท าซ้ าไปเรื่อยๆ จนเงื่อนไขเป็นเท็จจึงออกจากการท าซ้ า (ออกจาก
loop)
3) การท าซ้ า แบบ (do….while) โปรแกรมจะท างานครั้งแรก หนึ่งครั้งก่อนเสมอ แล้วจึง
ท าการตรวจสอบเงื่อนไข ถ้าผลการตรวจสอบเงื่อนไขเป็นจริง ก็จะท าซ้ าไปเรื่อยๆ จนเงื่อนไขเป็นเท็จ
จึงออกจากการท าซ้ า (ออกจาก loop)