Page 10 - ppp.Neat
P. 10
4. ทุนจดทะเบียนซึ่งต้องแสดงชนิด จ านวน และมูลค่าของหุ้น
5. ที่ตั้งส านักงานใหญ่ซึ่งต้องแสดงระบุว่าจะตั้งอยู่ ณ ท้องที่ใดในราชอาณาจักร
6. ชื่อ วันเดือน ปีเกิด สัญชาติ และที่อยู่ของผู้เริ่มจัดตั้งบริษัท และจ านวนหุ้นที่แต่ละคน
จองไว้
2. ผู้เริ่มจัดตั้งบริษัทมหาชนจ ากัด จะต้องขออนุญาตเสนอขายหุ้นออกใหม่ ต่อส านักงาน
คณะกรรมการก ากับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยจะแจ้งผลต่อผู้ขออนุญาตหลังจาก
นั้นผู้เริ่มจัดตั้งบริษัทมหาชนจะต้องยื่นแบบแสดงข้อมูลเสนอขายหุ้นและร่างหนังสือชี้ชวนการเสนอ
ขายหุ้นนั้นต่อ ก.ล.ต. หลังจากเอกสารนั้นมีผลบังคับใช้จึงน าหุ้นเสนอขายต่อประชาชนได้
3. ผู้เริ่มจัดตั้งบริษัทมหาชนจ ากัด เรียกประชุมเพื่อการจัดตั้งบริษัท ได้ต่อเมื่อผู้จองซื้อหุ้นครบ
ตามจ านวนที่ก าหนดไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิ ซึ่งเรียกประชุมดังกล่าวจะต้องด าเนินการภายในสอง
เดือนนับแต่วันที่มีการจองหุ้นครบตามจ านวนที่ก าหนดไว้ แต่ต้องไม่เกินหกเดือนนับแต่วันที่นาย
ทะเบียน รับจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ
4. การประชุมจัดตั้งบริษัทจะต้องพิจารณาข้อบังคับของบริษัท และเลือกตั้งคณะกรรมการ
บริหารบริษัท หลังจากนั้นคณะผู้เริ่มจัดตั้งจะมอบกิจการให้แก่คณะกรรมการบริหารบริษัทชุดใหม่
ด าเนินการต่อไป
5. คณะกรรมการบริหารบริษัทมีหนังสือแจ้งให้ผู้จองหุ้นช าระค่าหุ้นเต็มจ านวนภายในเวลาที่
ก าหนดไว้ในหนังสือแจ้ง จะต้องไม่น้อยว่าสิบสี่วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง และโอนกรรมสิทธิ์ใน
สินทรัพย์ให้แก่บริษัทในกรณีที่มีการช าระค่าหุ้นด้วยสินทรัพย์
6. คณะกรรมการบริษัทจะต้องด าเนินการ ขอจดทะเบียนบริษัทภายในสามเดือน นับแต่วัน
ประชุมจัดตั้งบริษัทเสร็จ บริษัทจะเป็นนิติบุคคลตั้งแต่วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียน
3. ข้อแตกต่ำงระหว่ำงบริษัทจ ำกัดกับบริษัทมหำชนจ ำกัด
การเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างบริษัทเอกชนจ ากัดกับบริษัทมหาชนจ ากัด
ข้อเปรียบเทียบ บริษัทเอกชนจ ากัด บริษัทมหาชนจ ากัด
1. กฎหมายใช้บังคับ ใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์เป็นกฎหมายใช้บังคับ
ใช้ พ.ร.บ. บริษัทมหาชนจ ากัด พ.ศ. 2535 และบริษัทมหาชน
จ ากัด (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2544
ใช้บังคับ
~ 6 ~