Page 47 - รายงานกนผ. ประจำปี 2562
P. 47
การจัดการดินและน้ําสําหรับรับมือภัยแลงทางการเกษตร
การเกษตรของประเทศไทยสวนใหญอาศัยน้ําฝนเปนหลัก และมักจะประสบกับภัยธรรมชาติ ทั้งความ
แหงแลงและน้ําทวม สําหรับความแหงแลงภาคการเกษตรจะไดรับผลกระทบโดยตรงและสรางความเดือนรอน
ใหกับเกษตรกรในบริเวณกวาง สําหรับปจจัยที่สําคัญในการเจริญเติบโตและใหผลผลิตของพืช ประกอบดวย 6
ปจจัย ไดแก 1. ชนิดหรือพันธุพืช 2. สภาพภูมิอากาศ 3. น้ํา 4. ดิน 5. ธาตุอาหารพืช 6. ศัตรูพืช โรคพืช
วัชพืช โดยปจจัยดังกลาว มีผลกระทบตอการเจริญเติบโตของพืชในกรณีที่มีน้ําที่เพียงพอตอความตองการ แต
เมื่อเกิดภัยแลงขึ้นจึงตองมีการเตรียมตัวและมีการปองกันผลกระทบจากการขาดแคลนน้ํา โดยมีการวางแผน
จัดการดินและน้ําที่เหมาะสม
ดิน
ดินนอกจากเปนที่ใหรากพืชไดยึดเกาะเพื่อตั้งตนอยูได เปนแหลงใหธาตุอาหารและดูดยึดปุยไวใหพืชได
ใชแลว ยังเปนที่ดูดยึดน้ําจากฝนหรือชลประทานไวใหพืชไดดูดกินอีกดวย น้ําในดินสวนที่เปนประโยชนตอพืช
และมีความสําคัญเกี่ยวของกับการจัดการดิน ปรากฏอยูในชองวางระหวาง อนุภาคดิน และเม็ดดิน น้ําในดิน
สวนใหญอยูในสถานะของเหลว
สมบัติของดินกับความเปนประโยชนของน้ําในดิน
1. เนื้อดิน : ความชื้นในดินที่มีประโยชนตอพืชจะมากหรือนอยขึ้นอยูกับเนื้อดินเปนหลัก โดยจะพบวา
กลุมดินเหนียวจะมีความสามารถในการอุมน้ําไดดีกวากลุมดินทราย
2. อินทรียวัตถุ : ปรับโครงสรางของดินในดินเนื้อละเอียด และเพิ่มความสามารถในการอุมน้ําและกัก
เก็บน้ําในดินเนื้อหยาบ
3. โครงสรางดิน : ดินที่มีโครงจะเพิ่มพื้นที่ผิวในการเกาะยึดของอนุภาคน้ําในดินไดดีกวาในดินที่ไมมี
โครงสราง
4. ความพรุน : ดินเนื้อละเอียดจะมีความพรุนนอยกวาดินเนื้อหยาบ
5. ความหนาแนนของดิน : ดินเนื้อละเอียดจะมีความหนาแนนสูงกวาดินเนื้อหยาบ
6. ความลึกของดินที่รากสามารถชอนไชได : ดินที่มีความลึกมากจะมีพื้นที่ในการเก็บกักน้ําไดมากกวา
ดินที่ตื้น
แหลงน้ําที่พืชใชในการเจริญเติบโตมาจาก 3 แหลงที่สําคัญคือ
1. น้ําฝน คือ น้ําที่เกิดจากการกลั่นตัวของไอน้ําตกลงมาบนพื้นโลกตามฤดูกาล
2. น้ําผิวดิน คือ แหลงน้ําที่มีอยูบนดินไดมาจากน้ําฝนและน้ําใตดินที่ไหลมา เชน แมน้ํา หนอง คลอง
บึง เปนตน