Page 161 - นครรังสิตของเรา
P. 161
คุณพ่อท่านเป็นคนขยันมากๆ ท่านจะท�าทุกอย่างที่ได้เงินเพื่อมาเลี้ยงพวกเรา ตอนนั้น แต่ชีวิตคนเรามักมีเรื่องพลิกผัน เมื่อถึงวันที่กิจการครอบครัวอยู่ตัว คุณพ่อ หากแต่สายเลือดนักสู้ก็ไหลเวียนอยู่ในกายของลูกชายคนนี้ไม่แพ้กัน เมื่อทุกวันเด็กน้อย
ผมเลิกเรียนกลับมาก็จะมีหน้าที่ช่วยงานทุกอย่างเหมือนกัน ช่วยปั่นน�้ามันขายบ้าง บางที เดชาได้ชักชวนให้ลูกชายคนโตอย่างผมลงสู่สนามการเมืองท้องถิ่น หลำกหลำยมุมมองและแนวคิดของนำยกเทศมนตรีนครรังสิต เลือกที่จะหยิบจับแบ่งเบาการงานที่บ้านมากกว่าที่จะออกไปวิ่งเล่นตามประสาเด็ก
ก็จะมีหน้าที่ขับรถไปส่งของ วันธรรมดาเย็นๆ ก็จะอยู่บ้านช่วยขายของอย่างเดียว สุดท้ายผมก็ได้มาท�างานการเมือง เริ่มจากช่วงนั้นมีการเลือกตั้งสมาชิกสภา ทั่วไป และด้วยภาระการงานอีกทั้งข้อจ�ากัดของเวลา จนบางครั้งอาจดูเหมือนว่าคุณ
ผมมีน้องชายอีก 3 คน ตอนที่ย้ายมาเปิดกิจการใหม่ๆ น้องทุกคนก็ยังเล็กอยู่ เทศบาล (ส.ท.) ปรากฏว่าคนในทีมขาด พอดีมีสมาชิกคนหนึ่งออกไป คุณพ่อหันไป ค้นอดีต “กลิ่นกุสุม” ตระกูลกำรเมืองแห่งนครรังสิต พ่อเดชาไม่มีเวลาให้กับลูกๆ แท้จริงแล้วเบื้องหลังความส�าเร็จของผู้ชายสักคนย่อม
คุณแม่เลยเป็นทั้งคนดูแลน้องๆ และช่วยงานคุณพ่อ เมื่อผมเป็นคนโตสุด เรื่องช่วยงานคุณพ่อ หันมาไม่เห็นมีใครที่เหมาะสม ก็เลยมาถามผมว่าอายุครบหรือยัง ซึ่งช่วงนั้นผมอายุ จากพ่อสู่ลูก จากทุ่งสู่เมืองเจริญ วิถีแห่งวิถีของ “นายกฯ ธีรวุฒิ กลิ่นกุสุม” ต้องมาจากการมีแม่บ้านที่ดีเป็นแนวหลัง “คุณสมพิศ แจ้งใจ” คือผู้หญิงที่อยู่เบื้อง
ก็ต้องรับหน้าที่ไปเต็มๆ ปี พ.ศ. 2532 คุณพ่อเดชาได้รับการชักชวนจากผู้ใหญ่บ้าน ไม่ครบ ขาดไปอยู่ 3 เดือน จึงจะครบ 25 ปี ก็เลยไม่ได้สมัคร แต่หลังจากนั้นไม่นาน หลังความส�าเร็จนั้น
ในสมัยนั้นให้ลงสมัครเลือกตั้งเป็นกรรมการสุขาภิบาล และด้วยการท�างานอย่างเอาจริง ประมาณ 3 เดือน มีการเลือกตั้ง ส.อบจ. ก็มีคนมาทาบทามให้ไปลงในทีมเขา ตอนนั้น “เขาชอบงานการเมือง เก่งในเรื่องการประสานงาน เขาช่วยผมได้เยอะ” ด้วยวิธีการสอนของผู้เป็นพ่อที่เลือกใช้ “ควำมรับผิดชอบ” มายึดโยงลูกชาย
เอาจัง จากนั้นไม่นาน พ.ศ. 2536 คุณพ่อเดชาก็ได้รับเลือกขึ้นเป็นประธานสุขาภิบาล เป็น อบจ. ยุคแรกๆ นายกฯ จะมาจากสภา พอเขาชวนผม คุณพ่อก็มองว่าเราอยู่ใน เดชา กลิ่นกุสุม กล่าวถึงลูกชายคนโตเมื่อครั้งทีมงานนิตยสารผู้น�าท้องถิ่นรุ่นบุกเบิก ให้อยู่ในกรอบเกณฑ์ เด็กชายอาร์ตในวัยแรกเริ่มจึงค่อยๆ ซึมซับผิดชอบชั่วดี เพราะ
การอุทิศตนเพื่อส่วนรวมของผู้เป็นพ่อในครั้งนั้นส่งผลให้ผมได้มีโอกาสเรียนรู้และเริ่มซึมซับ ท้องถิ่นระดับล่างก็จริง แต่เราก็พอมีเครือข่ายในพื้นที่ จึงไม่เข้าร่วมทีม แต่จัดทีมขึ้นเอง ได้มีโอกาสไปท�าความรู้จักกับนายกเทศมนตรีต�าบลประชาธิปัตย์ เมื่อ 10 กว่าปีก่อน นอกจากเด็กชายอาร์ตจะเป็นเด็กที่รู้หน้าที่ เด็กชายคนนี้ยังประพฤติตนได้อย่างน่า
กับค�าว่า “กำรเมือง” แล้วเรื่องการเมืองก็เริ่มซึมซับเข้ามาในหัวของผมตั้งแต่ตอนนั้น ซึ่งในทีมให้ผมเป็นหัวหน้าทีม โดยที่ผมอายุน้อยสุดและไม่เคยท�างาน ด้านการเมือง จากเทศบาลต�าบลประชาธิปัตย์เข้าสู่ยุค เทศบาลนครรังสิต หลายอย่าง ชื่นชม
พอผมจบ ม.3 คุณพ่อคุณแม่ท่านอยากให้ผมเรียนสายอาชีพ ที่จริงผมได้ มาก่อนเลย เปลี่ยนแปลงไป ตึกรามบ้านช่อง ถนนหนทาง วิถีผู้คน จากต�าบลเล็กๆ ชานเมือง “ตั้งแต่จ�าความได้ ในชีวิตผมโดนคุณพ่อตีแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ตอนนั้นเรายัง
โควตาเรียนพาณิชย์ แต่เพราะท่านเห็นว่ามันไม่เหมาะกับผม ท่านมองว่าผมน่าจะ ชีวิตคนเรามักมีจุดพลิกผัน จากนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่ก�าลังได้รับการจับตามอง สู่มหานครที่พรั่งพร้อม อยู่ที่บ้านหลังเก่า คือบ้านเราล้อมรอบด้วยคลอง คล้ายๆ อยู่ในเกาะ แล้วหลังบ้านก็
เรียนช่างดีกว่า สุดท้ายผมก็เลือกเรียนสายช่างยนต์ที่เทคโนโลยีปทุมธานี (ปวช.) และ กลายมาเป็นนักการเมืองระดับจังหวัด เส้นทางการเมืองเองก็มักมีจุดหักเห เมื่อได้รับเลือก ในขณะที่หลายสรรพสิ่งเคลื่อนไหวไปตามกระแสธารแห่งโลกาภิวัตน์ บางอย่าง เป็นสถาบันธัญญารักษ์ วันนั้นผมกลับบ้านดึกเขาก็เลยเป็นห่วง คือเขาไม่แน่ใจว่าไป
เรียนต่ออนุปริญญา (ปวส.) ที่วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี เป็น สจ. คนในพื้นที่ก็ย่อมฝากความหวัง และหากจะให้มาท�าหน้าที่แบบวันต่อวัน คงเป็น ในหัวใจชายหนุ่มคนหนึ่งไม่เคยเปลี่ยน ธีรวุฒิ กลิ่นกุสุม เด็กหนุ่มผู้ทุ่มเทชีวิตให้กับ จมน�้า หรือไปเป็นอะไรหรือเปล่าไง นั้นเป็นครั้งเดียวที่ผมโดนท่านตี คือจริงๆ
ในช่วงที่ผมจะเข้าเรียนต่อปริญญาตรี ช่วงนั้นผมก็รู้แล้วว่างานที่บ้านเยอะ การหมิ่นศรัทธาของประชาชน เมื่อตัดสินใจเข้ามาเป็นตัวแทนของประชาชนแล้วก็ต้อง การเมือง แล้วท่านเลี้ยงพวกเราแบบปล่อยอิสระนะ แต่ว่าด้วยสภาพพื้นที่ ท่านก็เลยอดเป็นห่วง
ผมก็เลยตัดสินใจไม่เรียนต่อภาคปกติ คือไปสมัครเรียนภาคสมทบที่สถาบันราชภัฏ คิดถึงประโยชน์ของคนในพื้นที่ เราคงไม่อาจบอกว่า เลือดที่เข้มข้นของอดีตนายกฯ เดชา เป็นสิ่งชักน�าให้ ไม่ได้
เพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ ไปเรียนวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะในวันธรรมดาจะได้ท�างานเต็มที่ “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” ผมใช้ความสามารถพิสูจน์ฝีมือการเมือง ลูกชายคนโตก้าวเข้าสู่สนามการเมือง หากแต่หัวใจของเขาเองต่างหากที่เรียกร้อง แล้วนิสัยส่วนตัวผมก็เป็นคนกลางๆ คือไม่ได้สุดโต่งไปข้างใดข้างหนึ่ง ตั้งแต่
จากนั้นผมก็ไปดูแลธุรกิจถมดินแทนคุณพ่อ ระดับจังหวัดจนเป็นที่ประจักษ์ ในที่สุดช่วงกลางสมัยแรก เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ในสภา ให้เดินตามรอยผู้เป็นบิดา และสิ่งที่ท�าทั้งหมดหาใช่การ “วัดรอยเท้ำ” แต่ที่ก้าว เล็กจนโต ผมไม่เคยดื่มเหล้าเมายาเลย แต่ผมก็ไปกับเพื่อนฝูงที่ดื่มได้นะ เพียงแต่ผม
แม้การศึกษาต่อในระดับชั้นปริญญา จะเป็นเพียงการใช้เวลาว่างในวันเสาร์- ก็ได้รับเลือกให้เป็นรองนากยก อบจ. หลังจากผมได้รับเลือกเป็น ส.อบจ. ติดต่อกันเป็น เข้ามาเป็นเพราะ “จิตอาสา” และสานต่อวิถีพัฒนาที่ผู้เป็นบิดาเคยสร้างไว้เมื่อครั้ง ไม่ดื่มกับเขาเท่านั้นเอง มันก็เลยไม่เคยเลยเถิดไปไกล หรือท�าตัวเละเทะจนไม่ได้กลับ
อาทิตย์ แต่ผมมองว่าประสบการณ์ชีวิตเป็นเรื่องส�าคัญกว่าสิ่งใด ผมได้ใช้ความรู้ความ สมัยที่ 3 ผมก็อยู่ในต�าแหน่งระยะหนึ่ง ก่อนที่จะลาออกเพื่อเข้ามาเป็นหนึ่งในทีมผู้บริหาร “รังสิต” ยังเป็นแค่ “พื้นที่รอบข้ำงควำมเจริญ” บ้านกลับช่อง เพราะจริงๆ แล้วตั้งแต่จ�าความได้ ผมได้ออกไปนอนบ้านเพื่อนครั้งแรก
สามารถที่มีเข้ามาบริหารธุรกิจของครอบครัว โดยที่ตัวเองมีอายุเพียง 20 กว่าปี และ เทศบาลเมืองรังสิตในต�าแหน่งรองนายกเทศมนตรี ด�ารงต�าแหน่งนี้ 4 ปีเต็ม ก็ได้ขึ้นสู่ ภาพของผู้เป็นพ่อค่อยๆ หลั่งไหลออกมาจากปากค�าของ ธีรวุฒิ กลิ่นกุสุม ตอนเรียน ปวช. แล้วนะ ตอนเล็กๆ ไม่เคยได้ไปไหน ด้วยสภาพสังคมด้วย ด้วยภาระ
ที่ส�าคัญธุรกิจในความดูแลของลูกชายคนโตอย่างผมนับวันมีแต่จะเจริญรุ่งเรือง ต�าแหน่งผู้บริหารสูงสุดของเทศบาล คือ “นำยกเทศมนตรีนครรังสิต” หรือ “อำร์ต” ลูกชายคนโต ผู้เป็นส่วนหนึ่งในประจักษ์พยานการต่อสู้ของหัวหน้า หน้าที่ที่เราต้องท�าด้วย อีกอย่างผมชอบท�างาน ก็เลยไม่คิดที่จะไปไหน
ครอบครัว ที่เฝ้ามอง “ฮีโร่ในดวงใจ” เพียรสร้างฐานะมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย
158 นครรังสิตของเรา นครรังสิตของเรา 159