Page 65 - demo
P. 65
รายงานผลการด าเนินงานของคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี : 58
๒. การพัฒนาระบบบริการสุขภาพ
๒.๑ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจ ากระทรวงการท่องเที่ยว
และกีฬา (นาวาตรี วรวิทย์ เตชะสุภากูร) ได้รับมอบหมาย
ให้เป็นประธานร่วมในการประชุมคณะกรรมการอ านวยการ
เพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ
(นโยบาย Medical Hub) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๒ ณห้องประชุม
ชัยนาทนเรนทร ชั้น ๒ ส านักงานปลัด กระทรวงสาธารณสุข
๒.๒ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจ ากระทรวงมหาดไทย (พลต ารวจโท ณัฐพิชย์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) ได้ผลักดัน
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นให้วิเคราะห์ผลการด าเนินงานของโรงพยาบาล ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ได้แก่ (๑) โรงพยาบาลที่ด าเนินกิจการแล้วไม่ขาดทุนหรือขาดทุนไม่มาก มีแผนการด าเนินงานในระยะ ๕ ปี ส าหรับ
การพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการ ก าหนดโครงสร้างการรองรับความก้าวหน้าของบุคลากรและสร้างรายได้
ให้เพิ่มขึ้น (๒) โรงพยาบาลที่ประสบปัญหา/ขาดทุนสูง มีปัญหาอุปสรรคและแนวทางการแก้ไขและควรมีแผนฟื้นฟู
กิจการในระยะ ๕ ปี ที่ก าหนดเป้าหมายให้ขาดทุนน้อยลง และให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นมีกลไกในการ
กลั่นกรองระดับจังหวัดและระดับกรมในการพิจารณาความพร้อมให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อนจะด าเนินการ
จัดตั้งโรงพยาบาลเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในอนาคต
๒.๓ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจ ากระทรวงสาธารณสุข (นายวีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์) ได้รับมอบหมายให้
เข้าร่วมการประชุมก าหนดนโยบายส าคัญที่อยู่ภายใต้การก ากับดูแลของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ โดยให้
ด าเนินการในเรื่องเร่งด่วนที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เช่น การพัฒนาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน : EMCO และ
ร่วมการประชุมเรื่องขจัดความพิการทางสายตาจากต้อกระจกในคนไทย เพื่อขับเคลื่อนโครงการสุขภาพและผลักดัน
การปฏิบัติงานตามนโยบายรัฐบาลแก้ปัญหาผู้ที่สายตาพิการจากต้อกระจกให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
๒.๔ ผู้ช่วยรัฐรัฐมนตรีประจ ากระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ ธวัช( สุนทราจารย์ ) ได้เข้าร่วมประชุม
High Level Conf errence on Preparedness for Public Health Emergencies "Challenges and
" Opportunities in Urban Areas ณ เมืองลียง สาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยได้แสดงบทบาท
ในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการใช้มาตรการระดับชาติและระหว่างประเทศในการเตรียมความพร้อมเกิดเหตุ
ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข และแสดงความมุ่งมั่นในการร่วมมือจากทุกภาคส่วน เช่น ภาคสาธารณสุข ภาคการขนส่ง
ภาคการท่องเที่ยว ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน ในการสนับสนุนความมั่นคงด้านสุขภาพในระดับประเทศ
ภูมิภาคและระดับโลก โดยมีการท างานแบบพหุภาคี สร้างความร่วมมือกันจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งจากภาครัฐ
และภาคเอกชนที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ภายในปี พ.ศ. ๒๕๗๓