Page 13 - nitarn
P. 13
นิทานพื้นบ้านภาคใต้ เรื่อง ต านานเขาช้าง (จ.พังงา)
เดิมมีพี่น้อง 2 คน พี่ชื่อยมดึง เป็น
ชาย น้องชื่อยมโดย เป็นหญง ตงบ้านเรือนอยู่
ั้
ิ
่
่
ทีประจวบคีรีขันธ์ ตอมานางยมโดยเสียชีวิต
้
ตายมเศร้าโศกมากจึงละทิงถินเดิมไปตาม
่
ยถากรรมจนมาถึงปลายคลองแสง ในเขต
อ าเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฏรธานี และอาศัย
์
ู่
อยกับตาโจงโดงในละแวกบ้านไกรสร ซึ่งมีอาชีพ
หาน้ ามันชันจากต้นยาง เนื่องจากตายมดึงเป็นคน
ั
ขยนจนตาโจงโดงพอใจมาก ถึงกับยกนางทองตึง
ให้แก่ตายมดึง
ครั้นอยู่มาวันหนึ่งมีโขลงช้างป่าเข้ามาท าลายไร่ข้าวและผักผลไม้ของตายมดึง ไล่ไป
ั
แล้วก็กลับมากินอีกเป็นหลายคราวจนนายยมดึงโกรธแค้น จะฆ่าช้างทั้งโขลงนั้นให้ได้ ยงมีตางุ้ม
ี
ู่
เป็นชาวบ้านพุมเรยง อ าเภอไชยามีอาชีพค้าขายเดินทางไปต่างเมืองอยเสมอ ตางุ้มมีช้างอย 2
ู่
เชือก เป็นช้างพังและช้างพลายเพื่อเป็นพาหนะในการบรรทุกสินค้า คราวนั้นตางุ้มเดินทางจาก
ู่
ไชยาไปค้าขายถึงเขาพนมและจะต่อไปยังตะกั่วป่า ขณะตางุ้มพักช้างอยนั้น โขลงช้างที่ตายมดึง
ไล่วิ่งผานมา ช้างพลายของตางุ้มเห็นช้างพังงามเข้าก็กระชากปลอกขาดออกวิ่งติดตามนาง
่
ช้างพังป่านั้นไป ได้อาละวาดต่อสู้กับช้างพลายป่าจนฝงช้างแตกกระจัดกระจายหนีไปคนละทิศ
ู
ละทาง จนเป็นเหตุให้ตายมดึงส าคัญผิดติดตามล่าช้างของตางุ้มเชือกหนึ่งด้วย
ตายมดึงสะกดรอยล่าช้างกับหมาตัวหนึ่ง ตามมาจนถึงคลองสก ซึ่งน้ าเชี่ยวมาก
ช้างพังเชือกหนึ่งก าลังท้องแก่ตกใจวิ่งหนี จนพลาดตกลงไปในคลองนั้น แรงกระแทกท าให้ตกลูก
ี
ออกมา ลูกช้างตัวนั้นกลายเป็นหินอยกลางคลองสก จึงเรยกว่า “หินลูกช้าง” มาจนบัดนั้นตา
ู่
ยมดึงยังคงติดตามรอยช้างต่อไป โดยลากหอกตามไปเรื่อย ๆ ทางที่ลากหอกไปนั้น ท าให้ดินและ
หินแยกเป็นทางน้ าอยู่ในเขตอ าเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เรียกหมู่บ้านแถบนั้นว่า “บางลาก
หอก” หรือบางตาม จนมาถึงทุกวันนี้