Page 18 - bangkok yai
P. 18
12
ของไทยสมัยโบราณ เพราะชื่อวัดที่แทจริงมักจะไมมี จึงเรียกชื่อวัดตามชื่อตําบลที่ตั้ง เชน วัดบางลําพู
วัดปากลําภู เปนตน ตอมาเมื่อไดสรางวัดขึ้นอีกวัดหนึ่งในตําบลเดียวกันนี้ แตอยูล้ําเขาไปในคลองบางกอกใหญ
หรือคลองบางหลวงชาวบานเรียกชื่อวัดที่สรางใหมวา “วัดมะกอกใน” จึงเรียกวัดมะกอกเดิม ซึ่งอยู
ตอนปากคลองบางกอกใหญ หรือคลองบางหลวงวา “วัดมะกอก” เพื่อใหทราบวาเปนคนละวัด
สวนที่เปลี่ยนเปน“วัดแจง” นั้น มีเรื่องเลาสืบตอกันมาวา สมัยสมเด็จพระเจากรุงธนบุรี
(สมเด็จพระเจาตากสินมหาราช) ไดทรงกอบกูกรุงศรีอยุธยาสําเร็จเรียบรอย ใน พ.ศ.2310 แลว มี
พระราชประสงคจะยายราชธานีมาตั้ง ณ กรุงธนบุรี จึงเสด็จกรีฑาพลลองลงมาทางชลมารค เมื่อมาถึง
หนาวัดนี้ก็ไดอรุณหรือรุงแจงพอดี ทรงพระราชดําริเห็นเปนอุดมมหามงคลฤกษ จึงโปรดใหเทียบเรือ
พระที่นั่งที่ทาน้ํา แลวขึ้นไปทรงสักการบูชาพระมหาธาตุในขณะนั้นมีความสูงประมาณ8 วา ประดิษฐาน
อยูริมฝงแมน้ําหนาวัด และไดเสด็จประทับแรมที่ศาลาการเปรียญใกลรมโพธิ์ ตอมาโปรดใหบูรณปฏิสังขรณ
วัดแลวเปลี่ยนชื่อเสียใหมเปน “วัดแจง” นอกจากนี้ยังมีหลักฐานวา สมเด็จฯ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ
ไดทูลสมเด็จฯเจาฟากรมพระยานริศรานุวัดติวงศไววา “หมอมฉันเคยเห็นแผนที่เมืองธนบุรีที่ฝรั่งเศส
ทําขึ้นในรัชกาลสมเด็จพระนารายณฯ ในแผนที่นั้นมีแตวัดเลียบกับวัดแจง แตวัดโพธิ์หามีไม ตรงที่
วัดพระธาตุพนเวลานั้นยังเปนชานปอมใหญ ซึ่งอยูราวโรงเรียนราชินีเพราะฉะนั้นวัดโพธิ์เปนวัดที่สราง
เมื่อชวงรัชกาลสมเด็จพระนารายณฯ มาแลว
จากหลักฐานนี้ทําใหเห็นไดชัดวา วัดแจงนั้นมีมากอนที่สมเด็จพระเจากรุงธนบุรีจะทรงยาย
ราชธานีมายังกรุงธนบุรีตามเรื่องที่ไดกลาวมาแลว และชาวฝรั่งเศสผูทําแผนที่เมืองธนบุรีในสมัยสมเด็จ
พระนารายณมหาราช คือ เรือเอก เดอฟอรบัง (Claude de Forbin) กับนายชาง เดอ ลามาร (de Lamare)
ซึ่งตอมา เดอฟอรบัง นั้น ไดรับพระราชทานบรรดาศักดิ์เปน “ออกพระศักดิสงคราม” มีตําแหนงเปน
ผูบังคับปอมและเปนเจาเมืองที่บางกอกดวย อันเปนบําเหน็จความชอบสําคัญ เพราะวายศบรรดาศักดิ์
นี้ก็เทียบเทากับชั้นจอมพลของประเทศฝรั่งเศส ราชทินนามนี้แปลวา “เทพเจาซึ่งมีแสงสวางและชํานาญ
ในการสงคราม”
เรือเอก เดอฟอรบัง (Claude de Forbin) และนายชาง เดอ ลามาร (de Lamare) นั้น ได
เดินทางเขามาถึงกรุงศรีอยุธยา เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2228 พรอมกับคณะทูตและคณะบุคคลอีก
หลายทาน เชอวาลิเอรเดอโชมองต เปนราชฑูตและผูบัญชาการกระบวนเรือรบหลวง ซึ่งพระเจา
หลุยสที่ 14 กษัตริยกรุงฝรั่งเศส ทรงแตงตั้งมาเจริญพระราชไมตรีกับสมเด็จพระนารายณมหาราช
ตอมาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหลานภาลัย รัชกาลที่ 2 พระองคทรงดําเนินการ
บูรณะปฏิสังขรณตอจนเสร็จทั้งไดทรงปนหุนพระพุทธรูปดวยฝพระหัตถ และโปรดใหหลอขึ้นประดิษฐาน
เปนพระประธานในพระอุโบสถ และโปรดใหมีมหรสพสมโภชฉลองวัดในป พ.ศ. 2363 แลวโปรด
พระราชทาน พระนามวัดวา "วัดอรุณราชธาราม"
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกลาเจาอยูหัว รัชกาลที่ 3 ไดทรงปฏิสังขรณวัดอรุณฯใหม
หมดทั้งวัด พรอมทั้งโปรดใหกอสรางพระปรางคตามแบบที่ทรงคิดขึ้นจนสําเร็จเปนพระเจดียสูง 1 เสน13
วา 1 ศอก 1 คืบ กับ 1 นิ้ว ฐานกลมวัดโดยรอบได 5 เสน 37 วา ซึ่งการกอสรางและปฏิสังขรณ
สิ่งตาง ๆ ภายในวัดอรุณฯ นี้สําเร็จลงแลว แตยังไมทันมีงานฉลองก็สิ้นรัชกาลที่ 3 ในป พ.ศ. 2394เมื่อ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกลาเจาอยูหัว รัชกาลที่ 4 เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ พระองคไดโปรดใหสราง
และปฏิสังขรณสิ่งตาง ๆ ในวัดอรุณฯ เพิ่มเติมอีกหลายอยาง ทั้งยังไดอัญเชิญพระบรมอัฐิของ