Page 38 - bangkok yai
P. 38

32







                                กลาวโดยสรุป โบราณสถานในพระราชวังเดิมสมเด็จพระเจาตากสินมหาราชไดแกทองพระโรง
                       กรุงธนบุรี ปอมวิไชยประสิทธิ์ ตําหนักเกงคูหลังเล็ก ตําหนักเกงคูหลังใหญ ตําหนักเกงสมเด็จพระปนเกลา
                       เจาอยูหัว ศาลสมเด็จพระเจาตากสินมหาราชหรือศาลพระเจาตาก ศีรษะปลาวาฬและเรือนเขียว
                                2.  โบราณวัตถุในพระราชวังเดิมสมเด็จพระเจาตากสินมหาราช
                                    2.1  ระฆังจีน

                                        ระฆังจีน เปนโบราณวัตถุที่สําคัญของพระราชวังเดิม ตั้งอยู ณ ทองพระโรงชั้นเอก
                       มีความสูงจากปากระฆังถึงกนระฆัง 24 นิ้ว ความใหญวัดรอบจากวงปากระฆังได 82 นิ้ว เสนผาศูนยกลาง
                       ที่ปากระฆัง 26 นิ้วฟุต หูแขวนระฆังทําเปนมังกรคาบแกวจีนมี 2 หัว ตัวติดกันขามังกร 4 ขา จับตอ

                       ระฆัง 4 มุมพอดี ที่กลางมังกรมีหวงใสสําหรับแขวนระฆัง จากรูปรางและหู ซึ่งทําเปนรูปมังกรจีน
                       ประกอบคําจารึกเปนภาษาจีนไวที่ตัวระฆังดวย จึงแนใจวาเปนระฆังจีนพระรัตนมุนี เจาอาวาสวัด
                       หงษาราม (วัดหงสรัตนาราม) ถวายพลเรือเอก สมเด็จเจาฟาฯกรมหลวงนครราชสีมา ผูสําเร็จราชการ
                       กระทรวงทหารเรือพรอมกับแทนพระเจาตาก 1 แทน บุษบก(ชํารุด)1 หลัง เพื่อเปนของสําหรับ

                       พระราชวังเดิมพลเรือโทพระดํารงราชพลขันธ(คอน บุนนาค) ปลัดทูลฉลองกระทรวงทหารเรือ เปนผูนํา
                       เรือเล็กและทหารไปรับมาจากวัดหงสรัตนาราม เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2487 และไดสั่งการใหกรม
                       ยุทธโยธาทหารเรือ (กรมอูทหารเรือปจจุบัน) ไดทําหลักสําหรับแขวนที่ตัวระฆัง มีอักษรจีนปรากฏอยู
                       แปลเปนไทยวา “หลวงจีนอิ้งเต็ง แหงวัดไตรรัตน เมืองหองเชียง ยืนยันวามารดาอุบาสก อุบาสิกา

                       ทั้งหลายพนจากกรรมเวรชาติกอน โดยกุศลผลบุญเพิ่มพูนมากขึ้น จึงไปจุติในภพใหมอันมีแตความ
                       บริสุทธิ์ผุดผอง” อีกดานสลักวา “สลักเมื่อปชวด เดือนเหมันต วันมหามงคล ตรงกับปที่ 15 พระเจาเกียหลง”
                       (ตรงกับ พ.ศ. 2293) ระฆังใบนี้แขวนอยูบนฐานระฆัง ซึ่งกรมยุทธโยธาทหารเรือไดทําขึ้นตามพระราช
                       ประสงคของ พลเรือเอกสมเด็จเจาฟาฯ กรมหลวงนครราชสีมา ผูสําเร็จราชการกระทรวงทหารเรือ

                       เปนแบบไทย คือทําเปนเสากลม ตั้งอยูบนฐานทั้งสองขาง ที่หัวเสาแกะปนเปนรูปบัวหงาย โคนเสามี
                       หูชางขนาบขางสองดาน ที่ใบหูแกะเปนลายไทยงดงาม บนหัวเสาทั้งสองเปนพญานาคแบบไทย 2 ตัว
                       เกาะไวกับหัวเสา ตัวละขางชูเศียรสูฟาอยางสงางาม พาดหางมาบรรจบกันที่จุดศูนยกลางสําหรับ

                       แขวนระฆังพอดี ตวัดปลายหางที่ไขวกัน ชี้ชันเบื้องบนออนชอยสวยงามฐานระฆังนี้คงทําขึ้นภายหลังที่
                       ไดระฆังจีนมาแลว ทําเปนรูปมังกรซึ่งเปนสัตวที่ชาวจีนนับถือ ที่แขวนเปนรูปพญานาคไทยอยูใน
                       ลักษณะเดียวกัน ซึ่งเปนสัตวที่คนไทยยกยอง นับวาเขากันไดอยางกลมเกลียว ระฆังใบนี้ยังมีอยูที่
                       ทองพระโรงจนถึงปจจุบันนี้
   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43