Page 55 - งานนำเสนอ PowerPoint
P. 55
46
4.4.2 พิษน้ํายาล้างห้องน้ํา
1) ไอระเหยของแก๊สไฮโดรเจนคลอไรด์มีฤทธิ์ทําให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ
2) เมื่อสัมผัสกับผิวหนังจะทําให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ผิวหนังไหม้ ปวดแสบ ปวดร้อน
และเกิดผื่นแดงหรืออาจเกิดแผลอักเสบได้ หากสัมผัสกับผิวหนังให้รีบล้างออกด้วยการให้น้ําไหลอย่างน้อย 15
นาที
3) หากน้ํายาสัมผัสกับตา อาจทําให้ตาบอดได้ เมื่อสัมผัสจะต้องรีบล้างออกด้วยรินจะ เห้
เหลผ่านตาอย่างน้อย 15 นาที หากยังมีอาการระคายเคืองให้รีบพบแพทย์ทันที
4) การกลืนกินน้ํายาโดยตรง จะทําให้เยื่อบุระบบทางเดินอาหารระคายเคือง เกิดอาการ แสบ
ร้อน ปวดท้องอย่างรุนแรง คลื่นไส้อาเจียน เยื่อบุเป็นแผล และอาจทะลุได้ แต่หากพบผู้ป่วยกลืนกิน ห้ามทําให้
อาเจียน แต่ให้ดื่มนมหรือน้ํามากๆ พร้อมรีบนําส่งแพทย์ทันทีพร้อมภาชนะบรรจุและฉลากของ ผลิตภัณฑ์ล้าง
ห้องน้ํา
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจที่ 2.3
จงตอบคําถามข้อต่อไปนี้
1. สบู่แข็งและสบู่เหลวมีสารตั้งต้นในการผลิตแตกต่างกันอย่างไร
2. แชมพูขจัดรังแคชนิดใสและชนิดขุ่นใช้สารขจัดรังแคแตกต่างกันอย่างไร
3. แชมพูสระผมมักจะเติมสารชนิดใดเพื่อช่วยให้ผมนุ่มลื่น
4. ผงซักฟอกมีสารชนิดใดเป็นส่วนประกอบบ้าง สารแต่ละชนิดทําหน้าที่อย่างไร
5. น้ํายาล้างจานที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบันคือชนิดใด
6. ส่วนประกอบหลักของน้ํายาล้างห้องน้ําที่สําคัญคือสารชนิดใด และสารชนิดนี้มีคุณสมบัติอย่างไร
5. สารกําจัดศัตรูพืชและสารกําจัดแมลง
สารกําจัดศัตรูพืช หมายถึง สารเคมีที่มีการนํามาใช้โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุม ป้องกัน และ กําจัดศัตรู
ของพืชชนิดต่างๆ เช่น แมลงต่างๆ รวมถึงสัตว์ฟันแทะ ทําให้ผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังช่วย
ป้องกันและกําจัดโรคที่เกิดจากสัตว์เป็นพาหะได้อีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ในทางกฎหมายสารกําจัด ศัตรูพืชทุกชนิด
จัดเป็นวัตถุอันตราย จึงจําเป็นจักต้องมีมาตรการควบคุมเพื่อจํากัดการผลิต การนําเข้า และ การส่งออก ซึ่งสารบาง
ชนิดจําเป็นจักต้องมีการขออนุญาตเพื่อการมีไว้ในครอบครอง
