Page 11 - รายงานวิจัยน้ำทะเล_Neat
P. 11
บทที่ 1
บทน า
1. ความเป็นมาและความส าคัญของปัญหา
ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ท าให้เกิดความสูญเสียซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพทางสังคม
เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมของประชาชนในพื้นที่การกัดเซาะชายฝั่งทะเลเกิดขึ้นตลอดแนวชายฝั่ง
ในทุกจังหวัดรอบอ่าวไทย โดยพบว่าการกัดเซาะเกิดขึ้นตั้งแต่ชายฝั่งตะวันออกจนถึงชายฝั่งอ่าวไทย
ฝั่งตะวันตก และบางพื้นที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น โดยจังหวัดที่มีพื้นที่ถูกกัดเซาะมากกว่าอัตรา
5 เมตรต่อปี (จัดเป็นพื้นที่วิกฤต) ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ
กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา
ปัตตานี และอีกหลายพื้นที่ที่ประสบกับปัญหาการกัดเซาะในอัตรา 1-5 เมตรต่อปี โดยเฉพาะพื้นที่
ชายฝั่งอ่าวไทยตอนในบริเวณปากแม่น้ าบางปะกงจนถึงปากแม่น้ าท่าจีน เป็นพื้นที่ที่มีการกัดเซาะ
รุนแรงมากที่สุด ปัญหาในพื้นที่ดังกล่าวมีความอ่อนไหวและเกิดอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม แม้ว่า
ปัญหาที่เกิดจะเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่อยู่นอกเหนือการควบคุม แต่เราสามารถชะลอป้องกัน
และลดผลกระทบ ที่เกิดขึ้นได้ จากเหตุการณ์ภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลายครั้ง ทุกภาคส่วนของสังคม
ยังให้ความส าคัญและตื่นตัวในการป้องกันและเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้น้อยมากเพราะการไม่รู้ไม่
ตระหนักและไม่เชื่อจึงได้รับบทเรียนราคาแพง แม้บางท้องถิ่นจะมีแผนรับมือและการเฝ้าระวังภัยอยู่
แล้ว แต่เนื่องจากขาดการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่างๆ ในการส่งเสริมสนับสนุนจึงท าให้การจัดการ
ลดทอนประสิทธิภาพลง
ในการจัดการภัยพิบัติที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
การป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง สามารถจ าแนกได้เป็น 2 ระดับ คือ ระดับประเทศ
ต้องออกนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผน และแผนปฏิบัติการ การออกกฎระเบียบกระทรวง ตลอดจน
สนับสนุนการด าเนินงานของภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาการ
กัดเซาะชายฝั่งทะเล และระดับชุมชน กล่าวคือ คนในชุมชนต้องร่วมกันจัดการแก้ปัญหาการกัดเซาะ
ชายฝั่งทะเลในพื้นที่ของตน โดยใช้องค์ความรู้ชุมชนที่พัฒนาขึ้นเองจากประสบการณ์ในอดีตช่วยบรรเทา
หรือแก้ปัญหาได้ในระดับชุมชน และให้ความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ อย่างไรก็ตาม การจัดการให้มี
ประสิทธิภาพและยั่งยืน คือ การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันด าเนินการ
รวมทั้งต้องมีการเชื่อมโยงและประสานเครือข่ายของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และ
ภาคประชาชนให้ท างานสอดคล้องกัน