Page 315 - บทคัดย่อการทดลองสิ้นสุด 58 (เลม 1)
P. 315
ผลการทดลองปี 2554 - 2556 พบว่า การใช้ปุ๋ยไนโตรเจนมีผลต่อการสร้างผลผลิตหัวสดของ
มันสำปะหลังอย่างมีนัยสำคัญ (P<0.01) แต่การใช้ปุ๋ยฟอสเฟตและปุ๋ยโพแทชไม่ทำให้ผลผลิตหัวสด
แตกต่างกัน และพบว่าการใช้ปุ๋ยไนโตรเจน ฟอสเฟต และโพแทช ไม่มีผลต่อปริมาณแป้งในหัวมันสำปะหลัง
ระดับปริมาณธาตุอาหารจากปุ๋ยเคมีที่เหมาะสมสำหรับมันสำปะหลังปลูกในดินทรายชุดดินน้ำพอง
จังหวัดขอนแก่น สามารถสรุปได้ดังนี้คือ พันธุ์ CMR42-44-98 ควรใส่ปุ๋ยไนโตรเจน 24 กิโลกรัม N ต่อไร่
ปุ๋ยฟอสเฟต 4 - 8 กิโลกรัม P 2O 5 ต่อไร่ และปุ๋ยโพแทช 8 กิโลกรัม K 2O ต่อไร่ ส่วนพันธุ์เกษตรศาสตร์ 50
ควรใส่ปุ๋ยไนโตรเจน 24 กิโลกรัม N ต่อไร่ ปุ๋ยฟอสเฟต 16 กิโลกรัม P 2O 5 ต่อไร่ และปุ๋ยโพแทช 8 กิโลกรัม
K 2O ต่อไร่
ผลการดำเนินงานปี 2556 - 2558 พบว่า การใช้ปุ๋ยไนโตรเจนและปุ๋ยโพแทชมีผลต่อน้ำหนัก
ผลผลิตหัวสดของมันสำปะหลังอย่างมีนัยสำคัญ (P<0.01) แต่การใช้ปุ๋ยฟอสเฟตไม่ทำให้ผลผลิตหัวสด
แตกต่างกัน และพบว่าการใช้ปุ๋ยไนโตรเจน ฟอสเฟต และโพแทช ไม่มีผลต่อปริมาณแป้งในหัวมันสำปะหลัง
อัตราการใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมสำหรับมันสำปะหลังที่ปลูกในดินทรายชุดดินน้ำพอง จังหวัดนครสวรรค์
สามารถสรุปได้ดังนี้คือ มันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 86-13 ควรใส่ปุ๋ยไนโตรเจน 8 กิโลกรัม N ต่อไร่
ปุ๋ยฟอสเฟต 4 - 8 กิโลกรัม P 2O 5 ต่อไร่ และปุ๋ยโพแทช 16 กิโลกรัม K 2O ต่อไร่ ส่วนพันธุ์เกษตรศาสตร์ 50
ควรใส่ปุ๋ยไนโตรเจน 8 กิโลกรัม N ต่อไร่ ปุ๋ยฟอสเฟต 16 กิโลกรัม P 2O 5 ต่อไร่ และปุ๋ยโพแทช 8 กิโลกรัม
K 2O ต่อไร่
6. การนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์
ใช้เป็นข้อมูลในการให้คำแนะนำการใช้ปุ๋ยสำหรับมันสำปะหลังแก่เกษตรกรที่มาขอรับบริการ
คำแนะนำการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน และเป็นข้อมูลประกอบในการบรรยายฝึกอบรมให้แก่เกษตรกร
291

