Page 187 - บทคัดย่อการทดลองสิ้นสุด 58 (เล่ม 2)

รายงานผลการทดลองสิ้นสุด ปี 2558

1. ชุดโครงการวิจัย วิจัยและพัฒนาลิ้นจี่
2. โครงการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยีจัดการหลังการเก็บเกี่ยวลิ้นจี่ในเขตภาคเหนือ

3. ชื่อการทดลอง การทดสอบพัฒนาเครื่องมือต้นแบบร่วมกับสารทดแทนสำหรับผลลิ้นจี่

ส่งออก
Development Testing of Original Dipping Machine Incorporated

with Alternative to SO 2 for Litchi for Export

4. คณะผู้ดำเนินงาน สถิตย์พงศ์ รัตนคำ สุทธินี ลิขิตตระกูลรุ่ง 2/
1/
2/
วิทยา อภัย เกรียงศักดิ์ นักผูก 1/
ปรีชา ชมเชียงคำ 1/

5. บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวลิ้นจี่ ภายหลังได้สารทดแทน

ที่มีประสิทธิภาพสูงในการเก็บรักษาลิ้นจี่ จากการศึกษาในระดับห้องปฏิบัติการ คือ การแช่ในสารละลาย
โซเดียมเมตาไบซัลไฟต์ (SMS) ที่ความเข้มข้น 3 เปอร์เซ็นต์ ผสมกับกรดเกลือ (HCl) ที่ความเข้มข้น

1 เปอร์เซ็นต์ นาน 5 นาที โดยนำมาทดสอบกับเครื่องแช่ต้นแบบที่ต่อเติมระบบการแช่ด้วยหอดูดบำบัด
ก๊าซ SO 2 ที่ระเหยภายหลังการผสมเพื่อป้องกันอันตรายให้กับผู้ปฏิบัติงานระหว่างแช่ จำนวน 4 ซ้ำ

(ตะกร้าพลาสติกความจุ 11.5 กิโลกรัมต่อครั้งการแช่) เปรียบเทียบกับชุดควบคุม คือ ลิ้นจี่ที่รมด้วย

ก๊าซ SO 2 ที่ความเข้มข้น 0.7 เปอร์เซ็นต์ รมนาน 25 นาที และผลลิ้นจี่ไม่แช่สาร จำนวน 4 ซ้ำ
(ตะกร้าพลาสติก) ต่อกรรมวิธี พบว่า เครื่องมือต้นแบบใช้เวลาในการแช่เฉลี่ย 5.67 นาทีต่อตะกร้า

การแช่ SMS + HCl พบว่าค่าตกค้างของสาร SO 2 ในเนื้อผลต่ำกว่าเกณฑ์กำหนดของสหภาพยุโรป (10 ppm)

และต่ำกว่าวิธีการรมลิ้นจี่ด้วยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO 2) ในสัปดาห์แรกแต่ลดลงไม่แตกต่างกัน
เมื่อผ่านไปสองสัปดาห์ ค่าการตกค้าง SO 2 ในเปลือกผลทั้งสองกรรมวิธีไม่แตกต่างกันและค่าทั้งผลลดต่ำ

กว่าเกณฑ์ของ codex (กำหนดไว้ 50 ppm ในลิ้นจี่ทั้งผล) เมื่อเก็บรักษาผ่านไปสัปดาห์ที่สอง คะแนน

การเกิดสีน้ำตาลระหว่างการแช่ SMS + HCl และรม SO 2 ค่าต่ำไม่แตกต่างกัน แต่การแช่ SMS + HCl
พบค่าสีแดงผิวเปลือก (a*) สูงกว่าเมื่อเก็บรักษาผ่านไป 2 สัปดาห์ และคะแนนการยอมรับของผู้บริโภคสูง

ทั้งสองกรรมวิธีเมื่อเปรียบเทียบกับผลไม่แช่สารตลอดอายุการเก็บรักษา 21 วัน ที่ 5 องศาเซลเซียส
ความชื้นสัมพัทธ์ 45 เปอร์เซ็นต์ (RH)

___________________________________________

1/ ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมเชียงใหม่
2/ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 1
898