Page 11 - โขนไทย
P. 11
ก าเนิดพงศ์วานร
ฤๅษีโคดม เดิมเป็นผู้ปกครองนครสาเกด ไม่มีโอรสและธิดา เกิดเบื่อหน่ายในราช
สมบัติจึงออกบวชเป็นฤๅษีนาสองพันปี วันหนึ่งได้ยินนกกระจาบที่มาท ารังในหนวดเคราพูด
ว่าฤๅษีเป็นคนบาปเพราะไม่มีลูกสืบสกุล ฤๅษีจึงเสกหญิงงามชื่อว่า นางกาลอัจนา มาเป็น
ภรรยามีลูกสาวชื่อ นางสวาหะ ต่อมาไม่นาน พระอินทร์ และพระอาทิตย์อยากแบ่งไปช่วย
พระรามจึงลอบมาท าให้นางกาลอัจนาตั้งครรภ์และคลอดโอรสออกมาโอรสของพระอินทร์มี
กายสีเขียว ชื่อ กากาศ หรือ พาลี โอรสของพระอาทิตย์มีกายสีแดง ชื่อสุครีพ นาสวาหะ
เล่าเรื่องนี้ให้ฤๅษีโคดมฟังแต่ฤๅษีโคดมไม่เชื่อจึงลองเสี่ยงทายโดยโยนลูกทั้งสามลงในน้ า แล้ว
ตั้งจิตอธิษฐานว่า เด็กคนไหนเป็นลูกของตน ขอให้ว่ายน้ ากลับมาได้ แต่ถ้าไม่ใช่ลูกของตน
ก็ขอให้เด็กคนนั้นกลายเป็นลิงหนีเข้าป่าไป ปรากฏว่ามีนางสวาหะคนเดียวที่ว่ายน้ ากลับมา
ส่วนลูกชายสองคน กลายร่างเป็นลิงว่ายน้ าหนีขึ้นอีกฝั่งไป พระอินทร์และพระอาทิตย์จึง
เนรมิตเมืองขึ้นมา แล้วให้พญากากาศ หรือพาลีเป็นเจ้าครองเมือง และให้สุครีพเป็นอุปราช
ฝ่ายฤๅษีโคดมก็สาปให้นางกาลอัจนากลายเป็นก่อนกลายเป็นหิน นางกาลอัจนาสาปนาง
สวาหะ ให้ไปยืนขาเดียวเหนี่ยวกินลมที่เชิงเขาจนกว่ามีลูกเป็นลิง พระอิศวรจึงสั่งให้พระ
พายน าพลังและเทพอาวุธไปซัดเข้าปากให้นางสวาหะตั้งครรภ์และคลอดลูกชายออกมาเป็น
ลิงเผือก ชื่อ หนุมาน มีเขี้ยวเป็นแก้วมีขนเป็นเพชร สวมกุณทล สามารถ "หาวเป็นดาวเดือน
เมื่อส าแดงฤทธิ์ จะมีสี่หน้า แปดมือ