Page 37 - รวมเล่ม
P. 37
26
2.7.2.2 สีอ่อนหรือสีจำง (Tint) คือ จะใช้เรียกสีแท้ที่ถูกผสมด้วยสีขำว เช่น สีเทำ สี
ชมพู
2.7.2.3 สีแก่ (Shade) ใช้เรียกสีแท้ที่ถูกผสมด้วยสีด ำ เช่น สีน้ ำตำล
สีสำมำรถแยกออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1) สีธรรมชำติ สีธรรมชำติ คือ สีที่เกิดขึ้นเองธรรมชำติ เช่น สีของ
แสงอำทิตย์สีของท้องฟ้ำ ยำมเช้ำ เย็น สีของรุ้งกินน้ ำเหตุกำรณ์ที่เกิดขึ้นเองธรรมชำติ ตลอดจนสีของ
ดอกไม้ ต้นไม้ พื้นดิน ท้องฟ้ำ น้ ำทะเล
2) สีที่มนุษย์สร้ำงขึ้นหรือได้สังเครำะห์ขึ้น เช่น สีวิทยำศำสตร์ มนุษย์ได้
ทดลองจำกแสงต่ำงๆ เช่น ไฟฟ้ำ น ำมำผสมโดยกำรทอแสงประสำนกัน น ำมำใช้ประโยชน์ในด้ำนกำร
ละครกำรจัดฉำกเวที โทรทัศน์กำรตกแต่งสถำนที่ (ชลูด นิ่มเสมอ, 2544)
2.7.3 แม่สี (Primaries)
สีต่ำงๆ นั้นมีอยู่มำกมำยแหล่งก ำเนิดของสีและวิธีกำรผสมของสีตลอดจนรู้สึกที่มีต่อสีของ
มนุษย์แต่ละกลุ่มย่อมไม่เหมือนกัน สีต่ำงๆ ที่ปรำกฏนั้นย่อมเกิดขึ้นจำกแม่สีในลักษณะที่แตกต่ำงกัน
ตำมชนิดและประเภทของสีนั้น แม่สี คือ สีที่น ำมำผสมกันแล้วท ำให้เกิดสีใหม่ ที่มีลักษณะแตกต่ำงไป
จำกสีเดิมแม่สีมือยู่ 2 ชนิด ดังนี้
2.7.3.1 แม่สีของแสง คือ เกิดจำกกำรหักเหของแสงผ่ำนแท่งแก้วปริซึม มี 3 สี คือ สี
แดง สีเหลือง และสีน้ ำเงิน อยู่ในรูปของแสงรังสีซึ่งเป็นพลังงำนชนิดเดียวที่มีสีคุณสมบัติของแสงสำ
มำร น ำมำใช้ ในกำรถ่ำยภำพ ภำพโทรทัศน์ กำรจัดแสงสีในกำรแสดงต่ำงๆ เป็นต้น
2.7.3.2 แม่สีวัตถุธำตุ คือ เป็นสีที่ได้มำจำกธรรมชำติ และจำกกำรสังเครำะห์โดย
กระบวนทำงเคมี มี 3 สี คือ สีแดง สีเหลือง และสีน้ ำเงิน แม่สีวัตถุธำตุเป็นแม่สีที่น ำมำใช้งำนกันอย่ำง
กว้ำงขวำงในวงกำรศิลปะ วงกำรอุตสำหกรรม ฯลฯ แม่สีวัตถุธำตุเมื่อน ำมำผสมกันตำมหลักเกณฑ์ จะ
ท ำให้เกิด วงจรสี ซึ่งเป็นวงสีธรรมชำติ เกิดจำกกำรผสมกันของแม่สีวัตถุธำตุ เป็นสีหลักที่ใช้งำนกัน
ทั่วไปในวงจรสีจะแสดงสิ่งต่ำงๆ ดังต่อไปนี้