Page 55 - ตำนานการสวดพระมาลัย
P. 55
๔๙
ยุคพระศรีอารีย์
เมื่อสมเด็จพระบรมโพธิสัตว์ตรัสถึงกลียุคจนถึงมนุษย์อายุเสื่อมถอยน้อยลงมาถึงแปดหมื่นปี
ั้
แล้วจึงตรัสต่อว่า " ครั้นเมื่ออายุมนุษย์ลดน้อยถอยลงได้แปดหมื่นปีตอนนนจักมีฝนตกทุกๆ ๑๕ วัน
แลส่วนมากนั้นจักตกแต่เพลาใกล้รุ่งทําให้มนุษย์มีความชุ่มชื่นใจพื้นดินกว้างใหญ่อุดมสมบูรณ์ แม่น้ํา
ลําคลองมีกระแสน้ําไหลขึ้นข้างหนึ่งไหลลงข้างหนึ่ง เต็มเปี่ยมเพียบฝ๎่งไม่มีพร่อง ไม่มีล้นเป็นอยู่อย่างน ี้
เสมอ ดอกไม้นานาพรรณผลิดอกออกช่อบานสะพรั่งตลอดกาล
บ้านเรือนจะปลูกอยู่ใกล้ๆกันพอไก่บินถึง ปราศจากโจรผู้ร้าย บริบูรณ์ไปด้วยน้ําแลข้าวปลา
อาหาร ผัวเมียจะไม่รู้จักวิวาทกัน ผู้ชายไม่ต้องทําไร่นาค้าขาย ผู้หญิงก็ไม่ต้องทอหูกป๎่นฝูาย ผ้านุ่งผ้า
่
ใช้ล้วนแตเป็นของทิพย์ อํามาตย์ข้าราชการตั้งมั่นอยู่ในความสุจริตธรรมไม่เบียดเบียนอาณา
ประชาราษฎร์ให้เดือดร้อน พระมหากษัตริย์จะไม่มีความกริ้วโกรธถือโทษลงพระราชอาญา มีน้ํา
พระทัยรักใคร่กรุณาแก่ประชาชนทวยราษฎร์
บรรดาสรรพสัตว์ที่เป็นศตรูกันทงหลายเช่นกากับนกเค้า แมวกับหนู งูกับพังพอน หมีกับไม้
ั
ั้
สะคร้อ ทั้งหมดก็จะแผ่เผื่อเมตตาจิตต่อกันเลิกเป็นคู่เวรคูกรรมต่อกัน สรรพสัตว์อยู่ด้วยกันอย่างมี
ความสุข เครื่องใช้ไม้สอยมีอุดมสมบูรณ์ทุกอย่าง แผ่นดินใหญ่กว้างล้วนราบเรียบเป็นหน้ากลอง ไม่มี
หลักตอเสี้ยนหนาม คนทั้งหลายรูปงามเหมือนกันหมด ไม่มีคนใบ้บ้า คนหูหนวกตาบอดง่อยเปลี้ยเสีย
ขาพิกลพิการก็ไม่มีแต่อย่างใด ทุกคนปราศจากโรคภัยเบียดเบียน เห็นกันเข้าก็มีแต่รักใคร่ไมตรีอันด ี
ต่อกันหาศัตรูหรือรู้จักโกรธให้กันก็ไม่มี ในครั้งนี้บุรุษจะมีภรรยารักคนเดียว สตรีก็จะมีสามีคนเดียว
กลมเกลียวรักใคร่ปองดองกัน ไม่มีการล่วงประเวณี แลคนในยุคนี้มีแต่ความผาสุขสมบูรณ์มากไม่ต้อง
ั้
ลําบากในการหากิน เพียงตั้งภาชนะปิดฝาเอาไว้ครั้นอยากกินสิ่งไรเปิดภาชนะก็ได้กินสิ่งนน
ครั้นว่าบริโภคโภชนากระยาหารอิ่มหนําสําราญแล้วอาหารนั้นก็อันตรธานหายไปไม่ต้องเก็บ
่
ต้องล้าง ข้าวของทุกอย่างใช้สอยแตเครื่องทิพย์ มีกิจอยู่แต่นั่งกับนอนฟ๎งเสียงอันเป็นทิพย์ไพเราะ
นักหนาอันเกิดจากเวลาลมพัดต้องหมู่ไม้ใบพฤกษาก็สั่นไหว เป็นเสียงทิพยดนตรีมีความไพเราะเป็น
หนักหนา ทุกคนถ้วนหน้ามีสมบัติเหมือนกันหมด ปราศจากกําพร้าอนาถา ปราศจากคนชราหรือ
ั้
ั้
เข็ญใจไร้ทรัพย์สมบัติ อันเหตุวิวาทแก่งแย่งชิงเอาบ้านเรือนไร่นาของกันและกันนนไม่มีเลย แลยุคนน
ึ้
นี้มีพืชข้าวกล้าเพียงเม็ดเดียวหากตกลงเหนือพื้นแผ่นดินแล้วก็งอกขนเป็นต้นเป็นลําเป็นปล้องเป็น
หน่อ แลเป็นกอใหญ่ๆออกไปได้หลายร้อยเท่าพันทวี ทั้งหมดเป็นดังนี้ก็เพราะข้าพระองค์ได้สร้างสม
บุญบารมีเอาไว้มาก