Page 6 - ชดการสอน ประวัติศาสตร์สากล
P. 6

จุลศักราช ( จ.ศ.)                                                     การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์

      จัดตั้งขึ้นโดยสังฆราชมนุโสรหัน แห่งอาณาจักรพุกาม เมื่อปีพุทธศักราช 1181โดยไทย  จุดมุ่งหมายในการแบ่งช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์  เป็นยุคสมัยต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความสะดวกในการศึกษา

      รับเอาวิธ๊การนับเวลา นี้มาใช้ในสมัยอยุธยา เพื่อการค านวณทาง โหราศาสตร์ ใช้บอก  ค้นคว้าเรื่องราวของมนุษย์ในอดีตและช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น ช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ตามแบบสากลแบ่ง

      เวลาในจารึก ตานาน พระราชพงศาวดาร จดหมายเหตุ ต่างๆ จนมาถึงสมัย       ออกเป็น 2 สมัย คือสมัยก่อนประวัติศาสตร์

      พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่5 ) จึงเลิกใช้       สมัยก่อนประวัติศาสตร์  เป็นช่วงเวลาที่มนุษย์ยังไม่รู้จักการประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นใช้  จึงยังไม่มีหลักฐานทาง

      รัตนโกสินทร์ศก (ร.ศ)                                                ประวัติศาสตร์ที่เป็นลายลักษณ์อักษร  ดังนั้น การศึกษาเรื่องราวของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์  จึงต้อง

      การนับเวลาแบบนี้พระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ หัว(รัชกาลที่5)ทรงตั้งขึ้นในปี  อาศัยการวิเคราะห์และตีความจากหลักฐานทางโบราณคดีที่ค้นพบ  เช่น  เครื่องมือ  เครื่องใช้  เครื่องประดับ

      พุทธศักราช2432 โดยก าหนดให้ก าหนดให้นับปีที่พระบาทสมเด็จพระพุทะยอดฟ้าจฬา  ที่ท าจากหิน  โลหะ และโครงกระดูกมนุษย์

      โลกมหาราช สถา ปนากรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อปีพุทธศักราช 2325 เป็นรัตนโกสินทร์  ปัจจุบันการก าหนดอายุสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในประเทศไทย  อาศัยพัฒนาการทางเทคโนโลยี  แบบ

      ศกที่1 และให้เริ่มใช้ศักราชนี้ในทางราชการตั้งแต่วันที่1 เมษายน ร.ศ.108 (พ.ศ.2432)   แผนการด ารงชีพและสังคม  ยุคสมัยทางธรณีวิทยา  น ามาใช้ร่วมกันในการก าหนดยุคสมัย  โดยสามารถแบ่ง

      เป็นต้นมา                                                           ยุคสมัยก่อนประวัติศาสตร์ได้ดังนี้

       การ นับเวลาแบบสากล                                                1. ยุคหิน   เริ่มเมื่อประมาณ 500,000 ถึง 4,000 ปี ล่วงมาแล้ว  แบ่งเป็น 3 ยุคย่อย ดังนี้

      คริสต์ศักราช (ค.ศ. )                                                ยุคหินเก่า  (500,000 –  10,000 ปีมาแล้ว )  เป็นช่วงเวลาแรก ๆ ของมนุษยชาติ  มนุษย์รู้จักใช้

      เป็นการนับเวลาทางศักราชของผู้นับถือ ศาสนาคริสต์ ซึ่งถือเป็นการนับเวลาที่นิยมใช้  เครื่องมือขวานหินกะเทาะ  ในระยะแรก  เครื่องมือจะมีลักษณะหยาบ โดยน าหินกรวดแม่น้ ามากะเทาะเพียง

      กันมาทั่วโลก โดยคริสต์ ศักราชที่1 เริ่มนับตั้งแต่ปีที่พระเยซูคริสต์ประสูต(ตรงกับ   ด้านเดียวและไม่ได้กะเทาะหมดทั้งก้อน  ใช้ส าหรับขุดสับและสับตัด  มนุษย์

      พ.ศ.543)และถือระยะเวลาที่อยู่ก่อนคริสต์ศักราชลงไป จะเรียกว่าสมัยก่อน  ในยุคหินเก่า ด ารงชีวิตอย่างเร่ร่อน  ล่าสัตว์และหาของป่ากินเป็นอาหาร

      คริสต์ศักราชหรือก่อนคริสต์กาล                                       ยุคหินกลาง  (10,000 – 6,000 ปีมาแล้ว)  เป็นช่วงเวลาที่มนุษย์รู้จักท าเครื่องมือเครื่องใช้ส าหรับล่าสัตว์

      ฮิจเราะห์ศักราช (ฮ.ศ.)                                              ด้วยหินที่มีความประณีตมากขึ้นและมนุษย์ในยุคหินกลางเริ่มรู้จักการอยู่รวมกลุ่มเป็นสังคมมากขึ้น

      เป็นการนับเวลาทางศักราชของผู้นับถือศาสนา อิสลามโดยอาศัยปีที่ท่านนบีมูฮัมหมัดได้  ยุคหินใหม่  (6,000 –  4,000 ปีมาแล้ว)  เป็นช่วงเวลาที่มนุษย์รู้จักท าเครื่องมือด้วยหินขัดเป็นมันเรียบ

      อพยพจากเมืองเมกกะไปยังเมืองมาดิ นา เป็นปีเริ่มต้นของศักราชอิสลามซึ่งตรงกับวันที่   เรียกว่า ขวานหินขัด ใช้ส าหรับตัดเฉือนแบบมีดหรือต่อด้ามเพื่อใช้เป็นเครื่องมือขุดหรือถาก มนุษย์ยุคหินใหม่มี

      6 กรกฏาคม ค.ศ. 622                                                  ความเจริญมากกว่ายุคก่อน ๆ รู้จักตั้งถิ่นฐานเป็นหลักแหล่ง รู้จักการเพาะปลูก   2

                                                                            เลี้ยงสัตว์  ท าภาชนะดินเผา
   1   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11