Page 60 - Printing System E-Book
P. 60
3 Flexographic Printing
แม่พิมพ์เฟล็กโซกราฟีที่ใช้กันทั่วไปมีโครงสร้างคล้ายกับแม่พิมพ์เลตเตอร์เพรส ที่ใช้
พอลิเมอร์ไวแสง โดยส�าหรับแม่พิมพ์เฟล็กโซกราฟีนี้ จะออกแบบให้ชั้นพอลิเมอร์มีความ
หนามากเป็นพิเศษ เพื่อเปิดโอกาสให้ช่างท�าแม่พิมพ์สามารถควบคุมความสูงของพื้นนูน
(relief depth) ได้ตามต้องการ และเพิ่มขึ้น stabilizing film (แทนชั้นกาว) ระหว่างชั้นพอ
ลิเมอร์กับฐานแม่พิมพ์ช่วยรักษาสภาพคงมิติของแม่พิมพ์ไว้ไม่ให้เปลี่ยนรูปร่างมากเกินไป
จากการยืดตัวของแม่พิมพ์ระหว่างการใช้งานที่ต้องมีการโค้งเข้าติดกับโมแม่พิมพ์ ปัจจุบัน
แม่พิมพ์เฟล็กโซกราฟีมีให้เลือกใช้ 2 ประเภทขึ้นอยู่กับวิธีการท�าแม่พิมพ์ ได้แก่ แม่พิมพ์
ดั้งเดิมหรือคอนเวนชันแนล กับแม่พิมพ์ดิจิทัลซึ่งโครงสร้างแม่พิมพ์ทั้งสองจะไม่ต่างกัน
ยกเว้นที่ผิวด้านบนของแม่พิมพ์ดิจิทัลจะมีสารคาร์บอนสีด�าเคลือบบางๆ อยู่ เรียกว่า black
mask layer ท�าหน้าที่เป็นภาพแทนฟิล์มต้นฉบับเนกาทิฟ (ภาพที่ 8)
ลักษณะของแม่พิมพ์พื้นนูนประกอบด้วยส่วนส�าคัญ (ภาพที่ 9) ได้แก่ ฐานรองแม่
พิมพ์ (plate backing) พื้น (floor) ส่วนนูนของภาพ (relief) บริเวณภาพ (image area)
บ่าของส่วนนูน (shoulder) และความหนาทั้งหมดของแม่พิมพ์ (plate thickness / celi-
per)
การท�าแม่พิมพ์แบ่งออกเป็น 2 วิธีได้แก่ แบบดั้งเดิมผ่านฟิล์มต้นฉบับเนกาทิฟ กับ
แบบคอมพิวเตอร์-ทู-เพรส (CTP) ที่ไม่จ�าเป็นต้องใช้ฟิล์มต้นฉบับ วิธีดั้งเดิมประกอบด้วย 6
ขั้นตอน แสดงใน (ภาพที่ 10) ดังนี้
- ฉายแสงหลัง (back exposure) ด้วยรังสี UV-A เพื่อท�าการสร้างความหนาของพื้น
(floor) โดยปรกติความหนานี้อย่างน้อยควรเท่ากับครึ่งหนึ่งของความหนาทั้งหมดของแผ่น
แม่พิมพ์ที่ก�าลังใช้อยู่
- ฉายแสงหลัก (main exposure) ด้วยรังสี UV-A เพื่อสร้างส่วนนูนของภาพ (relief)