Page 9 - Demo
P. 9

ผลกํารศึกษําวิจัยพบว่ําลักษณะกํารกระทําควํามผิดเกี่ยวกับกํารค้ํามนุษย์ในอดีตยังไม่มี กฎหมํายเฉพําะเจําะจง ที่สํามํารถเอําผิดกับผู้กระทําในลักษณะที่หลํากหลํายและครอบคลุมอย่ํางเช่น ปัจจุบัน จึงทําให้กํารกระทําควํามผิดลักษณะนี้ทวีควํามรุนแรงเพิ่มมํากขึ้น และทําให้ผู้กระทํา ควํามผิดลอยนวล เหนือสิ่งอื่นใดทําให้ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อไม่ได้รับควํามคุ้มครองและถูกเยียวยําจํากกําร กระทําควํามผิด แต่ในปัจจุบันภําครัฐได้เล็งเห็นถึงควํามสําคัญของผู้ที่ได้รับผลกระทบจํากกํารกระทํา ควํามผิด จึงได้บัญญัติกฎหมํายเพื่อกําหนดลักษณะควํามผิดให้ครอบคลุมถึงกํารแสวงหําประโยชน์ อื่นๆโดยมิชอบจํากบุคคลอื่น พร้อมทั้งได้กําหนดลักษณะกํารกระทําที่เป็นควํามผิดด้วยวิธีกําร ที่หลํากหลํายมํากขึ้น รวมถึงได้มีกํารปรับปรุงกํารช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิภําพของผู้เสียหํายที่ตก เป็นเหยื่อจํากกํารค้ํามนุษย์ จึงได้ตรําพระรําชบัญญัติกํารป้องกันและปรําบปรํามกํารค้ํามนุษย์ พ.ศ. 2551 ขึ้นเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ตกเป็นเหยื่อจํากกํารค้ํามนุษย์
จํากประเด็นระบบคุ้มครองช่วยเหลือผู้ตกเป็นเหยื่อทั่วไปและเด็กและเยําวชนชําติพันธ์ุบน พื้นท่ีสูงที่ตกเป็นเหยื่อกํารค้ํามนุษย์อดีตถึงปัจจุบัน สํามํารถสรุปควํามได้ดังนี้
แผนผงัระบบคุ้มครองและชว่ยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อกํารค้ํามนุษย์
  ช
 






























































































   7   8   9   10   11